วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

อาหารเสริม

จำหน่ายอาหารเสริมและเวชสำอางค์ราคากันเอง
อาหารเสริม

พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณจำเป็นต้องกิน อาหารเสริมบำรุงผิว ทำไมคนทั่วไป
 ถึงไม่กินอาหารเสริมบำรุงผิว รวมถึงวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมบำรุงผิว
 และอาหารเสริมบำรุงผิว ที่ทำให้หน้าใสขึ้นใน 24 วัน ได้ที่นี่

ทำไมต้องกินอาหารเสริมบำรุงผิว

บุคลิกภาพภายนอก มีความสำคัญมาก ต่อชีวิตของเรา ไม่ว่าเราจะยังเรียนหนังสืออยู่
 เริ่มต้นทำงาน ทำงานมานานแล้ว ใกล้เกษียณแล้ว หรือแม้แต่เกษียณเรียบร้อยแล้ว
 อยู่บ้านเลี้ยงหลาน บุคลิกภาพภายนอก ก็ยังคงมีบทบาทต่อชีวิตเราอยู่
 เพราะมันเป็นปราการด่านแรกเลย ที่คนอื่นจะมองเรา หรือที่ มีคำพูดว่า เสื้อผ้า หน้า
 ผม ต้องเป๊ะ

หากเราเป็นคนที่ มีผิวพรรณดี เรียบเนียน เปล่งปลั่ง มันก็คงจะน่าดูชม
 บุคลิกภาพของเรา ก็คงจะดี ความมั่นใจของเรา ก็คงจะเพิ่มมากขึ้น
การพูดคุยกับผู้อื่น ก็ดูจะเป็นเรื่องง่าย ถ้าเรายังคง เป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่
คนรอบข้าง ก็คงจะไม่กลัวที่จะคุยกับเรา การเข้าสังคมก็จะเป็นเรื่องง่าย



หรือถ้าเราเป็นคนในวัยทำงาน ผิวพรรณยิ่งมีความสำคัญ เพราะว่าคนในวัยทำงาน
 มีความเครียดสูง ทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ และพักผ่อนน้อย
 เพราะภาระงานที่ค่อนข้างหนัก ทำให้บางครั้ง การดูแลบำรุงรักษาผิวพรรณ
 มีความย่อหย่อนไปบ้าง หรือทำได้ไม่เต็มที่ ก็อาจจะทำให้เป็นคนที่ ดูแก่กว่าวัย
 ซึ่งคงไม่มีใครชอบ หากโดนทักแบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากอยู่ในอาชีพ ที่มีความจำเป็น ที่จะต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ
 ไม่ว่าจะเป็น เซลล์ขายสินค้า พนักงานประชาสัมพันธ์ แอร์โฮสเตส หรือสจ๊วต
 พนักงานต้อนรับในโรงแรม และพวกพริตตี้ เอ็มซี ต่างๆ เรียกง่ายๆ ว่า เหล่าอาชีพ
 ที่ต้องใช้หน้าตา ผิวพรรณ ในการทำมาหากินนั่นแหละ



ถ้าผิวหน้า หรือผิวกาย ดูหมองคล้ำ มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ที่มากเกินวัย
 ลูกค้าที่มาติดต่อกับ ก็คงจะรู้สึกว่า ขนาดตัวเองยังดูแลได้ไม่ดีเลย
 แล้วจะดูแลเค้าได้อย่างไร ลูกค้าก็อาจจะตั้งกำแพงในใจ หรือความคาดหวังไปในทางลบ
 มากกว่าจะวางใจให้เป็นกลาง ส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานอีก

สำหรับคนที่เป็นผู้ใหญ่ๆ หน่อย อาจจะคิดว่า แก่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องบำรุงผิวเลย
แต่นั่นยิ่งเป็น ความคิดที่ผิดถนัดเลย เพราะยิ่งแก่สิ ยิ่งต้องบำรุง
เพราะว่าร่างกายก็มีความทรุดโทรม ตามกาลเวลา ถ้าไม่มีการนำอาหารผิว เข้าไปในร่างกาย
เพื่อซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอ หรือชะลอ ให้มันเสื่อมช้าลง ร่างกายจะยิ่งไปไวเลย

ฉะนั้นอาหารเสริมบำรุงผิว จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
 ตั้งแต่เราเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเลยทีเดียว เพราะว่ามันจะช่วยให้เราชะลอ ความชรา
 เป็นคนที่มีผิวพรรณดี สดใส เปล่งปลั่ง มีรอยเหี่ยวย่นช้า ซึ่งจะทำให้เรา
 บุคลิกภาพดีขึ้น และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในการพบปะผู้คน


ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน อาหารเสริมบำรุงผิว


มีความเชื่อบางอย่าง ที่ทำให้คนทั่วไป รู้สึกว่า อาหารเสริมบำรุงผิวนั้น
 ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะว่าเค้าคิดว่า เค้าจัดเต็มกับการใช้
เครื่องประทินผิวต่างๆ ที่ซื้อตาม Counter Brand ในห้างสรรพสินค้าแล้ว
แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว แล้วทำไมจะต้องไปกินอาหารเสริมอีก

หรือบางคนก็คิดว่า มื้ออาหารที่เค้ากินเข้าไป ในแต่ละวัน มีอาหารผิว
 อยู่อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว อาหารเสริมบำรุงผิวเลยไม่จำเป็น สำหรับเค้า
 ส่วนอีกความเชื่อนึง ที่มีคนมากมายมองมุมนี้ นั่นคือ เค้าอาจจะยังไม่ถึงวัย
 ที่จะต้องบำรุง ดูแลรักษาผิวพรรณ ผิวหน้าเลย แล้วจะไปกินอาหารเสริมทำไม เราก็จะมา
 ตีแผ่ความเชื่อที่กล่าวมาข้างต้น ว่าเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน
 หรือเป็นแค่ความเชื่อที่ไม่จริงเลย
  ความเชื่อที่ 1 ใช้ Skin Care แบบจัดเต็มแล้ว ทำไมต้องกินอาหารเสริมอีก
  คนไทยกลุ่มที่ใช้สินค้า ที่ซื้อจาก Counter Brand ต่างๆ ตามห้างสรรพสินค้า
  แบบจัดเต็ม ชุดนึงหลายหมื่นบาท มักจะมองว่า
  ไม่เห็นจำเป็นต้องกินอาหารเสริมบำรุงผิวเลย เพราะว่าที่ซื้อมาตั้งหลายหมื่นบาท
  มาประทินผิว Mask หน้า Scrub หน้า นวดหน้า ทาทั้งครีมกันแดด ใช้ Day Cream Night
  Cream Toner เช้าใช้ล้างหน้าตัวนึง และก่อนนอนใช้ล้างหน้าอีกตัวหนึ่ง
  ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

แต่ความจริงแล้ว มันไม่เพียงพอ เพราะการใช้ Skin Care อย่างเดียว
 ทำได้แค่การบำรุงจากภายนอก หากขาดการบำรุงจากภายใน ด้วยอาหารเสริมแล้ว
 สุดท้ายร่างกาย จะได้รับการบำรุงไม่เต็มที่ ก็จะแก่ก่อนวัย อยู่ดี
  ความเชื่อที่ 2 กินอาหารที่ดีต่อผิวพรรณ แบบจัดเต็มแล้ว
  จะกินอาหารเสริมไปเพื่ออะไร
  คนบางกลุ่ม เชื่อว่าเค้ากินอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพผิว อย่างจัดเต็ม
  ในทุกวันอยู่แล้ว เค้าอาจจะบอกว่า กินมะเขือเทศเป็นประจำ ดื่มชาเขียวตลอด
  กินปลาทุกวัน กินผักใบเขียว ที่มีธาตุสังกะสีสูง ไม่เคยขาด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่
  งานวิจัยในต่างประเทศ มากมายหลายฉบับ ให้ผลตรงกัน ว่ามันดีต่อผิวของมนุษย์จริงๆ
  ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมันก็ได้ผลจริงๆ ซะด้วย แบบที่ไม่มีใครสามารถ
  เถียงผลการทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ได้

แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่คนกลุ่มนี้ขาด คือ ข้อมูลที่บ่งบอกว่า
 ปริมาณของสารที่อยู่ใน อาหารผิวต่างๆ ที่ดีต่อผิวพรรณของเรา มันอยู่ที่เท่าไหร่
 เช่น ถ้าจะให้ผิวพรรณดี ด้วยการกินมะเขือเทศ ต้องกิน 100 ลูก
 ถึงจะได้รับสารอาหารเพียงพอ สำหรับ 1 วัน หรือสารบางอย่าง อาจจะสูญสลายไป
 เมื่อโดนแสงแดด เพราะฉะนั้น เอามากินก็ไม่ได้รับอาหารผิวตัวนั้นแล้ว ฉะนั้น
 แค่กินอาหารแบบจัดเต็ม ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี
  ความเชื่อที่ 3 คิดว่าอายุยังน้อยอยู่ ไว้ค่อยไปบำรุงในอนาคตก็ได้
  ยังไม่ถึงวัยซะหน่อย
  ความเชื่อของคนกลุ่มนี้ อันตรายมาก เพราะว่าอย่างน้อย 2 กลุ่มแรก
  ก็ยังมีทัศนคติที่ดี ต่อการดูแล บำรุง ร่างกายของตัวเอง แต่ว่าคนกลุ่มนี้
  กลับมองว่า ไม่มีความจำเป็น จะแก่ ก็ให้มันแก่ไป เหี่ยวยาวๆ ไปเลย
  ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ปล่อยเลยตามเลย ให้เป็นไปตามธรรมชาติ

แต่ความจริงแล้ว ร่างกาย และผิวพรรณของนั้น เสื่อมถอยลงไปทุกวัน ถ้าหากไม่เติมอาหาร
ให้กับผิวพรรณ แล้วล่ะก็ หลังจากอายุ 18 ไปสิ่งที่เรียกว่า แก่ก่อนวัย
จะเริ่มคืบคลานเข้ามา ในชีวิต และเมื่อถึงเวลาที่ ร่างกายเสื่อมถอยไปมากแล้ว
จะกลับมาแก้ไข ก็อาจจะไม่ทันก็ได้ หรืออาจจะทัน แต่ก็ต้องเสียเงิน เสียทอง มากกว่า
และใช้เวลาในการฟื้นฟู ที่มากกว่า

วิธีการเลือกซื้อ อาหารเสริมบำรุงผิว เบื้องต้น

เมื่อได้รู้ถึง สาเหตุที่เราต้องกินอาหารเสริมบำรุงผิวไปแล้ว
 สิ่งที่น่าสงสัยต่อไปก็คือ แล้วอาหารเสริมบำรุงผิว แบบไหน ที่ดีจริง
 เราจะมาคุยกันถึง วิธีการเลือกซื้อ ดังนี้

1. ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รองรับ


งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มักจะให้ผลบอกว่า สารบางอย่างเช่น ไลโคปิน ในมะเขือเทศ
คอลลาเจน จากปลาทะเลน้ำลึก หรือคาเตชิน จากชาเขียว ช่วยบำรุงผิวได้
 แต่ก็มีอาหารเสริมดูแลผิวบางอัน ที่ไม่ได้รับ อย. แล้วไม่ได้ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ
 แต่ใช้สารสังเคราะห์ที่มีลักษณะเดียวกันมาใช้แทน ซึ่งกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ

2. ไม่สะสมในร่างกาย และมีผลเสียต่อตับ


อาหารเสริมบำรุงผิวบางตัว อาจจะมีสารตกค้างที่ขจัดไม่หมด ตอนที่สกัดออกมา
 ซึ่งทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย และส่งผลเสียในระยะยาว ตับจะเสียได้ ดังจะเห็นว่า
 อาหารเสริมบางตัว มีการระบุที่ฉลากว่า ห้ามกินติดต่อกันเป็นเวลานาน
 เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ฉะนั้นทางที่ดี เราก็เลือกตัวที่จะไม่ก่อปัญหา
 ให้กับร่างกายเรา
3. ไม่ใช้สเตียรอยด์เป็นส่วนผสม
อาหารเสริมบางตัว เล่นง่าย ไม่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ
 และไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ด้วย แต่ใช้สเตียรอยด์แทน ซึ่งแม้จะทำให้ผิว ดีขึ้นได้
 อย่างรวดเร็ว แต่ก็เหมือนเดิม คือ มันสะสมในร่างกาย และส่งผลร้าย
 ก่อให้เกิดมะเร็งด้วย

หน้าใสขึ้นใน 24 วัน ด้วยอาหารเสริมบำรุงผิว

หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่อยากหน้าใส หน้าเด้ง เพราะมีปัญหาเรื่องสิว ความหย่อนคล้อย
 หรือรู้สึกว่าช่วงนี้ หน้าโทรมมาก ไม่กล้าไปพบปะผู้คน
 การจัดเต็มชุดอาหารเสริมบำรุงผิว ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้  มันจะ
“ให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการอย่างแน่นอน” และมั่นใจได้เลยว่าคุ้มค่ากว่า ไปทำ
Treatment ที่ร้านอย่างแน่นอน เพราะเป็นการบำรุงจากภายใน

 อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว


อาหารเสริม
อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องกิน อาหารเสริมลดน้ำหนัก ทำไมคนทั่วไป
ถึงไม่ชอบอาหารเสริมลดน้ำหนัก วิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนัก
และชุดอาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่ลดได้ 8.8 กิโล ใน 20 วัน ได้ที่นี่

ทำไมต้องกินอาหารเสริมลดน้ำหนัก
น้ำหนัก เป็นเพียงแค่ตัวเลข ที่บ่งบอกว่า เรามีแรงกดต่อพื้นโลกเท่าไหร่
แต่ทำไมหลายต่อหลายคน ถึงให้ความสำคัญกับมันมากนัก คำตอบนั้น ง่ายนิดเดียว นั่นคือ
ค่านิยมของคนในสังคมยังไงล่ะ ที่บอกว่า คนที่สวย ที่หล่อ
ต้องเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเหมาะสม ไม่อ้วน ไม่ผอม จนเกินไป

ก็คงจะมีคำถามตามมาอีกว่า แล้วทำไมคนที่มีน้ำหนัก เกินความเหมาะสม หรือว่าคนอ้วน
จำเป็นต้องเชื่อตาม ค่านิยม หรือกระแสสังคม ด้วยการลดน้ำหนัก
ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วยล่ะ ก็เพราะถ้าลดน้ำหนักได้ ก็เป็นผลดีต่อตัวเค้าเอง
ร่างกายก็แข็งแรง บุคลิกภาพก็ดี ความมั่นใจในตัวเอง ก็จะเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่า
มีแต่ได้ ไม่มีเสีย


แต่พอเราเริ่ม ตัดสินใจที่จะลดน้ำหนัก อย่างจริงจัง มันก็มีปัญหาเพิ่มเติม
ขึ้นมาอีกแหละ นั่นคือ การลดน้ำหนักนั้น มันไม่ได้ง่าย อย่างที่เราคิด มันต้องอาศัย
ความมีวินัย และชนะใจตนเองให้ได้ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย ที่เราต้องอดใจ
ไม่กินอาหารที่เราชอบ อาหารที่เราขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ของทอด ของมัน ข้าวขาหมู
ข้าวมันไก่ น้ำหวาน น้ำอัดอม และอาหาร Fast food ต่างๆ

นอกจากนี้ เรายังต้อง ไม่กินจุบกินจิบ ในช่วงระหว่างมื้ออาหาร ไม่กินของกินเล่น ขนม
นม เนย และของขบเคี้ยวต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
ในการควบคุมตัวเองได้ แต่ถ้าแค่ลดอาหารระหว่างมื้ออย่างเดียว มันก็ยังคง
ไม่เพียงพอสำหรับ การลดน้ำหนักอย่างจริงจังอยู่ดี



ละถ้าเราอยากจะลดน้ำหนัก อย่างถูกต้อง และถูกวิธี ก็จำเป็นจะต้องออกกำลังกาย
ควบคู่ไปด้วย เพราะไม่งั้นลดน้ำหนักแล้ว เนื้อตัวอาจจะเหี่ยว ไม่น่ามองอีก
แล้วการออกกำลังกาย ก็ไม่ใช่ของง่าย ที่เราจะมีวินัย ทำได้อย่างสม่ำเสมอ
แค่เราออกไปวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ซักครึ่งชั่วโมง ในครั้งแรก
เราก็เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า เป็นอย่างมาก

ทั้งๆ ที่ เราก็รู้ว่า ถ้าทำกิจกรรมนี้ต่อไป ซัก 3-4 ครั้ง ร่างกายเราก็จะ
ปรับตัวรับมันได้เอง และจะไม่รู้สึกเหนื่อย เท่ากับครั้งแรกอีก
แต่มันก็ยากซะเหลือเกินที่จะ เอาชนะใจตัวเองได้ ให้พาตัวเอง ไปออกกำลังกาย
เพื่อที่จะได้ลดน้ำหนัก อย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ร่างกายที่สมส่วน



หรือบางคน ก็เลือกที่จะลดน้ำหนัก อย่างผิดวิธี นั่นคือ การอดอาหาร ทั้งๆ ที่
รู้ว่าต้องหิว แต่ก็ยอมทน สุดท้ายแล้ว ถ้าทนไม่ได้ ก็ต้องกลับไปกินใหม่
และกินเยอะกว่าเดิมด้วย อาจจะทำให้อ้วน ยิ่งขึ้นไปอีก หรือต่อให้อดทนต่อความหิวได้
ก็อาจจะได้ของแถมมา หลังจากลดน้ำหนักได้สำเร็จ นั่นคือ อาการของโรคกระเพราะ
ปวดท้องกันจนตัวบิดเลยทีเดียว

หากเราสามารถลด ละ เลิก อาหารที่เราชื่นชอบ แต่ไม่ดีต่อน้ำหนักตัวของเรา
ได้อย่างจริงจัง และเริ่มต้นออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอจริงๆ การลดน้ำหนัก
ก็คงจะเป็นเรื่องที่หมูมาก ทำได้อย่างสบายๆ แต่ในเมื่อเราทำไม่ได้
หรือคิดว่ามันยากที่จะทำสุดๆ ถ้าแค่ให้เราลดการกินจุบจิบ เพียงอย่างเดียว
กับไม่กินน้ำหวาน มันก็ดูจะเป็นไปได้มากกว่า

ถ้าคุณเป็นคนนึงที่คิดว่าแค่เพียง งดน้ำหวาน กับควบคุมตัวเองให้ไม่กินจุบจิบได้
การกินอาหารเสริมลดน้ำหนัก อย่างมีวินัย สามารถช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝัน ลดน้ำหนัก
จนเป็นคนที่ผอมสวย หล่อหุ่นดี อย่างที่คุณต้องการได้จริงๆ

ทำไมคนทั่วไปถึงไม่ชอบ อาหารเสริมลดน้ำหนัก

คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าอาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นเหมือนกับยา กินเข้าไปเยอะๆ
แล้วทำให้ร่างกายมีปัญหา เป็นอันตรายถึงชีวิต หรือมันดีไม่จริง
กินแล้วน้ำหนักลดก็จริง แต่สุดท้ายน้ำหนักดีดกลับมา กลายเป็นคนอ้วนเหมือนเดิม
หรือที่เรียกว่า Yoyo Effect เรามาตีแผ่กันว่า ความเชื่อเหล่านี้
มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
  ความเชื่อที่ 1 อาหารเสริมลดน้ำหนักเหมือนยาลดน้ำหนัก กินแล้วอันตราย
  ต้องแยกให้ออกระหว่าง อาหารเสริมกับยา บางทีเราอาจจะพลาดไปซื้อ ยาลดน้ำหนักมากิน
  แทนที่จะเป็น อาหารเสริมลดน้ำหนักแทน ซึ่งทำมาจากสารสังเคราะห์ หรือสารเคมี
  แทนที่จะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้ยาลดน้ำหนัก
  แม้จะทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็วมาก แต่ว่ามันทำให้ร่างกายเรามีปัญหา
  หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต เหมือนกับที่เราเคยเห็น ตามหน้าหนังสือพิมพ์

ฉะนั้น เราต้องเลือกอาหารเสริมลดน้ำหนัก แทนที่จะซื้อยาลดน้ำหนักมากิน
เพราะมันจะได้ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
แทนที่จะเป็นสารสังเคราะห์
  ความเชื่อที่ 2 อาหารเสริมลดน้ำหนักกินแล้ว ดีไม่จริง เกิด Yoyo Effect
  อาหารเสริมลดน้ำหนักที่คนส่วนใหญ่เลือก มักจะเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ
  และดูจะลดน้ำหนักได้เร็วเกินจริง อาจจะเจอคำโฆษณาว่า กินน้ำหวาน น้ำอัดลม
  ได้เหมือนเดิม กินจุบจิบ ก็ยังคงลดได้ ซึ่งก็อาจจะลดได้จริง แต่ว่าพอเลิกกิน
  น้ำหนักก็กลับมา เพราะว่ามันลดด้วยการใช้สารเคมี แต่อาหารเสริมลดน้ำหนักที่ดีนั้น
  ต้องบอกเพิ่มเติมด้วยว่า ต้องลด ละ เลิก ของหวาน และไม่กินจุบจิบด้วย ถึงจะลดได้
  แบบนี้ต่างหาก ที่จะลดแล้วไม่ดีดกลับมา


ฉะนั้น เราต้องไม่หลง คำโฆษณาชวนเชื่อ ที่บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเลย
แม้แต่น้อย ก็สามารถลดน้ำหนักได้ ของแบบนั้นมันอาจจะวิเศษจริง ลดได้จริง
แต่ไม่ได้ลดได้อย่างถาวร สุดท้ายพอเลิกกิน อาหารเสริม หรือยาลดน้ำหนักนั้นแล้ว
น้ำหนักของเราก็ดีดกลับมา อย่างแน่นอน

วิธีการเลือกซื้อ อาหารเสริมลดน้ำหนัก เบื้องต้น

1. ส่วนผสมเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี หรือสารสังเคราะห์

อย่างที่เราเน้นย้ำว่า ต้องซื้ออาหารเสริมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
ไม่ใช่ซื้อยาที่ทำมาจากสารเคมีสังเคราะห์มากิน ไม่งั้นจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ยิ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักแล้ว มันมีแนวโน้มที่เราจะกิน อาหารเสริม
หรือยาที่ซื้อมา มากกว่าที่กำหนดไว้ที่ฉลาก ถ้าเป็นอาหารเสริมก็ยังไม่เป็นไร
เพราะว่ากินเยอะมันก็ไม่ทำอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าเป็นยาแล้ว อาจจะต้องเตรียมตัว
ซื้อโลงศพไว้เลย

สำหรับสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดการดูดซึม อาหารจำพวกแป้ง และไขมัน ได้แก่
สารสกัดจากถั่วขาว และถั่วเหลืองหมัก ซึ่งจะทำให้ร่างกายเรา ไม่นำสารอาหารที่ได้รับ
จากอาหารจำพวกแป้ง และไขมัน ไปใช้แบบเต็มๆ โดยแป้ง และไขมันส่วนเกิน
จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทาง การขับถ่าย

ส่วนสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ให้กับร่างกายเรา ได้แก่
สารสกัดจากผลส้มแขก สารสกัดจากพริก และสารสกัดจากเมล็ดกาแฟ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเรา
เผาผลาญอาหารที่เข้ามาในร่างกายได้เร็วขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น

และเมื่อพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไป ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะดึงเอา
ไขมันที่สะสมไว้มาเผาผลาญต่อ น้ำหนักก็จะลดลง ดังจะเห็นได้จากอาหารเสริมลดน้ำหนัก
โดยมากก็จะมีส่วนผสมเหล่านี้

2. มีผลการใช้ที่ชัดเจน น้ำหนักลดจริง และไม่เกิด Yoyo Effect



อาหารเสริมลดน้ำหนักที่ไม่มีผลการใช้ที่ชัดเจน ไม่มีงานวิจัยรองรับ
ไม่มีคนเคยใช้แล้วได้ผล ก็คงจะไม่น่าสนใจ หรือบางครั้งลดแล้วก็กลับมาเป้น Yoyo
Effect อีก แบบนี้ก็คงจะไม่น่าใช้ และไม่คุ้มกับเงินที่เราต้องจ่ายไป
ต้องระวังโฆษณาชวนเชื่อให้มาก เพราะถึงเวลาใช้จริงแล้ว อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่
โฆษณาเคยโม้ไว้ หรือไม่สมราคาคุยก็ได้

3. กินแล้วต้องไม่ลดเร็วจนเกินไป จนดูน่ากลัว และเนื้อตัวไม่กระชับหลังจากลด



ความเร็วในการลดน้ำหนักนั้น ต้องไม่ช้า จนไม่ทันใจ และต้องไม่เร็ว
จนร่างกายทรุดโทรม หรือมีปัญหา แล้วก็ร่างกายจะต้องกระชับหลังจากลดน้ำหนักแล้วด้วย
ถ้าเกิดว่าลดแล้ว ร่างกายเราเป็นอย่างในรูป ก็คงจะแย่แน่นอน
และไม่คุ้มที่จะลดน้ำหนัก ด้วยวิธีนี้ ถึงจะผอม แต่ว่าไม่สวย ไม่หล่อ
กลับไปอ้วนเหมือนเดิม น่าจะดีกว่า


ลดได้ 8.8 กิโล ใน 20 วัน ด้วยชุดอาหารเสริมลดน้ำหนัก


หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่อยากจะลดน้ำหนักให้ได้ 8.8 กิโลกรัม ภายในเวลา 20 วัน
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่างมีวินัย การจัดเต็มชุดอาหารเสริมลดน้ำหนัก
ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ มันจะ “ให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน”
และมั่นใจได้เลยว่าถึงจะจัดเต็มแล้ว ลืมเรื่อง กิโลละ 10,000 บาท
ที่ต้องไปจ่ายตามคอร์สลดน้ำหนักอย่างแน่นอน

ชุดอาหารเสริมลดน้ำหนัก 8.8 กิโล ใน 20 วัน



กินเพื่อ เพิ่มการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย

เป็น อาหารเสริมลดน้ำหนัก
ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย
เมื่อร่างกายเราเผาผลาญดี เหมือนสมัยเรายังเป็นเด็ก หรือเป็นหนุ่มสาว
ก็จะทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปถูกนำไปใช้จนหมด
และร่างกายต้องนำไขมันที่สะสมไว้มาใช้ จึงทำให้ผอมลงได้ อย่างเป็นธรรมชาติ



ซึ่งเป็นส่วนผสม ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์ยอมรับ ว่าได้ผลในเรื่องการช่วยเผาผลาญ
และลดน้ำหนักจริง อีกทั้งยังเป็น สารสกัดจากธรรมชาติอีกด้วย

สนใจซื้อชุดอาหารเสริมลดน้ำหนัก


อาหารเสริม




อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี



พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณจำเป็นต้องกิน อาหารเสริมผิวขาว ทำไมคนทั่วไป 
ถึงไม่กินอาหารผิวขาว วิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมผิวขาวอย่างถูกวิธี 
และอาหารเสริมผิวขาว ที่ทำให้ขาวขึ้น 1 ระดับ ใน 18 วัน ได้ที่นี่

ทำไมต้องกินอาหารเสริมผิวขาว



ผิวขาวใส อมชมพู เป็นยอดปรารถนา ของคุณผู้หญิงทั้งหลาย เพราะถ้าแค่ ผิวพรรณดี 
ไม่เหี่ยวย่น ก่อนวัยอันควร มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี ถ้าจะให้ดีต้องขาวใส ไร้ฝ้า 
กระด้วย ถึงจะเรียกว่า ครบเครื่อง ครบสูตร ของคุณผู้หญิง ที่มีสุขภาพผิวดี 
เหมือนอย่างคำกล่าวที่ว่า ผู้หญิงอย่าหยุดสวย นั่นเอง

แล้ววิธีไหนล่ะ ที่จะทำให้เรา มีผิวที่ขาวใส อมชมพู อย่างที่ต้องการได้ 
หากเราไปถามคนทั่วไป ก็จะมีคำตอบที่หลากหลาย ต่างๆ นานา ซึ่งสิ่งที่ทุกๆ คนรู้กัน 
แต่ก็ทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง เพราะบางคำแนะนำ มันก็ยากที่จะทำ เพราะว่าเรา 
ไม่สามารถเอาชนะใจของตัวเองได้ หรือไม่มีเวลาที่จะมาทำสิ่งเหล่านี้ 
ข้อปฏิบัติที่ได้ยินบ่อยๆ ว่าจะทำให้เราผิวขาวได้ มี 5 ข้อดังนี้


  ใช้ครีมกันแดด: อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า แสงแดดเป็นตัวร้าย ทำลายผิวสวยๆ ของเรา 
  ทำให้ผิวคล้ำ และก่อให้เกิด ฝ้าแดด กระ สิว และจุดด่างดำต่างๆ ฉะนั้น 
  การใช้ครีมกันแดด จึงช่วยให้ เราเอาชนะแสงแดดได้ แสงแดด 
  ก็จะไม่สามารถทำอันตรายผิวเราได้ ผิวเราก็จะยังขาวใสอยู่
  ขัดผิวตามสูตรต่างๆ ที่เห็นใน Internet: ขัดผิวก็เป็นอีก คำแนะนำหนึ่ง 
  ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ เพราะมันเป็นการขจัดเซลล์ผิวหนัง 
  ที่ตายแล้วออกจากเซลล์ผิวหนัง ที่ยังมีชีวิตอยู่ สูตรก็มีแตกต่างกันไป หาได้จากใน 
  Internet หรือถ้าไม่อยากผสมขึ้นมาเอง ก็ซื้อสำเร็จรูปมาใช้ก็ได้
  ใช้ครีมบำรุงผิว ประทินผิวต่างๆ: การบำรุงจากภายนอกนี้ 
  ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ ผิวของเราลดการสร้างเม็ดสีผิว 
  ที่จะทำให้ผิวหมองคล้ำ เพราะสิ่งเร้าต่างๆ เช่น แสงแดด และอาหารการกิน 
  ที่ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ แต่การซื้อครีมบำรุงต่างๆ ก็ต้องระวังไม่ให้มี 
  สารที่อาจจะทำให้ผิวดี ชั่วคราว แต่ผิวเสียชั่วโครต อย่างพวกสารปรอท 
  หรือสเตียรอยด์ด้วย
  ทานอาหารให้เหมาะสม: อาหารการกิน ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่จำเป็นต่อการดูแล 
  ให้เรามีผิวที่ขาวกระจ่างใส การทานผักผลไม้ให้มากๆ ได้รับการยืนยันจาก 
  ผลการทดลองทางการแพทย์ว่า ช่วยให้เราให้รับสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidant 
  ที่จะช่วยให้เรามีผิวสวยกระชับ และใยอาหาร จะช่วยให้เราขับถ่ายของเสียได้ดี 
  สุขภาพผิวก็จะดีตาม
  ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกาย จะช่วยขับเหงื่อไคล 
  และสิ่งสกปรกใต้ผิว รวมถึงสารพิษออกมา ซึ่งจะทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น 
  ยิ่งออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้ผิวสดใสอยู่ตลอดเวลา 
  และการออกกำลังกายยังช่วย ลดการอุดตันของสิ่งสกปรกใต้ผิว ทำให้ไม่มีสิวอีกด้วย



ข้อควรปฏิบัติทั้ง 5 ข้อ ในการทำให้คุณ มีสุขภาพผิวที่ดี ขาว กระจ่างใส มีเลือดฝาด 
หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราไม่หลอกตัวเอง เราไม่น่าจะทำได้ทั้ง 5 ข้อ อย่างสม่ำเสมอ 
การใช้ครีมกันแดด เป็นประจำอาจจะไม่ใช่เรื่อง ที่ยากซักเท่าไหร่ 
เพราะว่าคนที่ดูแลตัวเองก็มักจะมีการ ทา Day Cream ตอนเช้าอยู่แล้ว และ Day Cream 
ก็มักจะมีส่วนผสมของสารกันแดดด้วย

การขัดผิวนี่ อาจจะยากหน่อยที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ 
บางทีเราอาจจะเห็นแก่การนอนพักผ่อน มากกว่าการดูแลตัวเองก็ได้ ส่วนการใช้ครีมบำรุง 
ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะว่ามันไม่วุ่นวายซักเท่าไหร่ แต่ข้อ 4 กับ ข้อ 5 
นั่นคือ การทานอาหารให้เหมาะสม กับการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก

คนส่วนใหญ่ชอบทานอาหารที่ อุดมไปด้วย แป้ง และไขมัน แทนที่จะกินผักและผลไม้ 
แล้วมันจะดีกับสุขภาพผิวได้อย่างไร เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย 
แม้แต่คนที่ตั้งใจดูแลสุขภาพผิว เป็นอย่างดี ก็อาจจะรู้สึกว่าเบื่อ 
และเหนื่อยกับการออกกำลังกาย หรืออาจจะหลอกตัวเองว่า ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทั้งๆ 
ที่จริงๆ แล้ว เรารู้สึกขี้เกียจก็เป็นได้



อาหารเสริมผิวขาวจึงจะเป็นคำแนะนำ ข้อที่ 6 ที่เราแนะนำ เพราะมันจะช่วย 
เติมเต็มช่องว่าง ที่เกิดขึ้นจากการกินอาหาร ที่ไม่ค่อยจะดีต่อสุขภาพผิวซักเท่าไหร่ 
สาร Antioxidant และใยอาหารที่ขาดไป จากการที่เราไม่ค่อยได้กินผัก และผลไม้ 
หรือถ้ากินแล้ว ก็กินได้ไม่ถึงปริมาณที่ร่างกายต้องการ

สิ่งเหล่านี้จะได้รับการทดแทน โดยอาหารเสริมผิวขาว 
และเราจะได้รับการบำรุงจากภายในอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่อง 
เราขี้เกียจออกกำลังกายได้ก็เถอะ



ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน อาหารเสริมผิวขาว



ในความรู้สึกของคนทั่วไป อาหารเสริมผิวขาวนั้น ดูจะเป็นของไม่จำเป็น 
หรือบางคนก็มองว่า มันเป็นของที่ดูแล้ว ค่อนข้างจะน่ากลัวซักหน่อย ดังจะเห็นได้จาก 
ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือจากทีวี ที่บางคนกินแล้วร่างกายมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น 
ผิวที่เหมือนกระดาษแต่ไม่แข็งแรง หรือบางคนกินกลูต้าเยอะไป จนตาบอดก็มี 
เราจะมาตีแผ่ ความเชื่อเหล่านี้กัน
  ความเชื่อที่ 1 ไปเข้าคอร์ส ตามสถานเสริมความงามแล้ว จะกินอาหารเสริมอีกทำไม
  การไปเข้าคอร์ส ตามสถานเสริมความงามนั้น อย่างไรก็ดีต่อผิวของเราอยู่แล้ว 
  แต่มันก็เป็นเพียงการดูแลผิวจากภายนอกเท่านั้น ถ้าเราพักผ่อนไม่เพียงพอ 
  กินอาหารไม่ถึง ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ มันก็ยากที่ร่างกายเรา จะดีจากภายใน 
  แล้วสะท้อนออกมาทางผิวกายได้

อาหารเสริมผิวขาวจึงเติมเต็ม ในส่วนของการดูแลผิวจากภายใน 
ซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า การบำรุงดูแลรักษาจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าคอร์ส 
หรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ประเภท Skin Care
  ความเชื่อที่ 2 อาหารเสริมผิวขาวดูจะเป็น ผลิตภัณฑ์อันตราย เพราะเห็นในข่าวบ่อย
  ก็เหมือนกับที่เราเน้นย้ำอยู่เสมอว่า สารสกัดจากธรรมชาติ ยังไงก็ดีกว่าสารเคมี 
  สารสังเคราะห์ เพราะมันไม่เป็นอันตรายกับร่างกายเรา หลายคนกินกลูต้า 
  แล้วร่างกายก็มีปัญหา ตัวซีดขาวเป็นกระดาษ ผิวหนังก็ไม่แข็งแรง 
  หรือบางคนก็กินสเตียรอยด์เข้าไป ตับ ไต ก็มีปัญหา

อาหารเสริมผิวขาวที่ดี ต้องเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 
เพราะที่จริงแล้วสารกลูต้าที่ทำให้ผิวขาวนั้น เป็นสารที่ร่างกายเรา 
สามารถผลิตขึ้นเองได้ ตามธรรมชาติ เพียงแค่ได้รับการกระตุ้นเท่านั้น 
ฉะนั้นในเมื่อร่างกายเราสร้างขึ้นได้ แล้วจะกินมันเข้าไปทำไม 
กลูต้าจากร่างกายเราย่อมดีกว่าที่กินเข้าไปแน่นอน

วิธีการเลือกซื้อ อาหารเสริมผิวขาว เบื้องต้น

ทีนี้พอเราได้เห็น ความจำเป็นในการกินอาหารเสริมผิวขาวกันไปแล้ว 
สิ่งที่เราอยากรู้ต่อไปก็คือ แล้วกินอาหารเสริมบำรุงผิว ตัวไหนดีล่ะ 
มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร เราจะมาดูกันว่าคำแนะนำ ในการเลือกซื้ออาหารเสริมผิวขาว 
มีอะไรบ้าง

1. ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์ยอมรับ



จะมีแค่สารสกัดจากธรรมชาติก็คงจะไม่เพียงพอ แต่ต้องได้รับการยืนยัน จากงานวิจัยว่า 
ปลอดภัย และมีผลในการทำให้ผิวขาวใสขึ้น จริงๆ เช่น สารสกัดจากเปลือกสน ที่มีสาร 
Antioxidant สูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และวิตามินอี 50 เท่า 
และยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยล้างหลอดเลือด 
เพื่อให้สารอาหารเข้าไปสู่เซลล์ผิวได้อย่างเต็มที่

รวมไปถึงกรดอะมิโน ในกลุ่ม แอล-ซิสเตอีน (L-Cysteine) 
ซึ่งเป็นสารเดียวกับที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ และเป็นสารตั้งต้นในการผลิตกลูต้า 
ภายในร่างกายของเรา รวมไปถึงสารกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ และ Co-Q10 
ที่ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ และให้พลังงานกับเซลล์ผิว 
ในการแบ่งตัวและสร้างเซลล์ผิวใหม่ด้วย

2. อย่าหลงเชื่ออาหารเสริมตัวที่บอกว่า ทำให้ขาวขึ้นได้อย่างถาวร



อาหารเสริมผิวขาวนั้น มีหน้าที่ปรับสมดุล ให้ร่างกายมีสมดุลใหม่ที่ดีต่อ 
การปรับเปลี่ยนให้เรามีผิวที่ดีขึ้น ขาว กระจ่างใส อมชมพู 
แต่ก็ต้องกินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สมดุลใหม่นี้ยังคงอยู่ เหมือนกับ Skin Care 
ที่เรายังต้องทา Day Cream และ Night Cream อยู่อย่างสม่ำเสมอ 
เพื่อให้มันบำรุงตลอดเวลา หากอาหารเสริมตัวไหน บอกว่าทำให้ขาวได้ถาวร 
ก็คงจะหลอกลวงประชาชนอย่างแน่นอน



ขาวขึ้น 1 ระดับ ใน 18 วัน ด้วยอาหารเสริมผิวขาว



หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่คิดว่า เคยขาวกว่านี้ น่าจะขาวได้มากกว่านี้ 
ช่วงนี้หน้าตาดูหมองคล้ำไป หรือช่วงนี้ดูโทรม การจัดเต็มอาหารเสริมผิวขาว 
ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ มันจะ “ให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน” 
และมั่นใจได้เลยว่าเมื่อจัดเต็มแล้ว ลืมเรื่อง การทำ Treatment ที่ร้านหมอไปได้เลย

อาหารเสริมผิวขาวฺ ขาวขึ้น 1 ระดับ ใน 18 วัน

อาหารเสริม


กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน




พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณต้องดื่ม กาแฟลดน้ำหนัก ทำไมคนทั่วไป
ถึงไม่ดื่มกาแฟลดน้ำหนัก รวมถึงวิธีการเลือกซื้อกาแฟลดน้ำหนัก และกาแฟลดน้ำหนัก
ที่ช่วยให้ลดได้ 14 กิโล ใน 45วัน

ทำไมต้องดื่มกาแฟลดน้ำหนัก



กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติ ความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 500 ปี
โดยมีที่มาจากภูมิภาคที่เรียกว่า ตะวันออกใกล้ หรือตะวันออกกลาง ในจุดที่ปัจจุบัน
เรียกว่า ประเทศเยเมน และความนิยมในการดื่มกาแฟ ก็ได้เข้ามาสู่ในยุโรป
โดยเริ่มจากเมืองเวนิส อิตาลี ที่เป็นรัฐมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และทางทะเลในเวลานั้น
ได้มีการค้าขายกับ ชาวอาหรับที่ปลูกกาแฟ

จากจุดเริ่มต้นตรงนั้น ก็นำไปสู่ ความนิยมดื่มกาแฟ ที่แพร่หลายไป ทุกภูมิภาคทั่วโลก
ในกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะความหอม อันน่าเย้ายวนใจ ของกาแฟนั่นเอง
ที่มัดใจคนทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา ให้ชื่นชอบเครื่องดื่มชนิดนี้
ไม่ใช่เกิดจากสารคาเฟอีน ที่อยู่ในกาแฟเท่านั้น

สำหรับคนที่อยู่ในวัยทำงานแล้ว กาแฟดูจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
เพราะเหมือนมันให้พลังวังชา ในการทำงาน มากกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ
ส่วนใหญ่ก็มักจะดื่มกันวันละ 1-2 แก้ว เป็นประจำทุกวัน บางคนก็ชอบกาแฟดำ
บางคนชอบกาแฟนม บางคนใส่น้ำตาลเยอะ หรือบางคนใส่น้ำตาลน้อย ก็แล้วแต่ความชื่นชอบ
ของแต่ละคน



สำหรับคนที่ชอบดื่ม กาแฟเย็นแบบเข้มข้น หวานมันมากๆ
อาจจะพบกับปัญหาบางอย่างในชีวิตได้ ดูได้จากหน้าท้องที่เริ่มมา
ความอ้วนที่ดูจะหลีกเลี่ยงได้ยาก แม้ว่าจะออกกำลังกาย
และกินอาหารอย่างระมัดระวังแล้ว รวมไปถึงงดน้ำหวาน น้ำอัดลมด้วย
แต่น้ำหนักก็ดูจะเพิ่มขึ้น อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ใครจะเชื่อว่า เพียงแค่การดื่มกาแฟเย็น ทุกวันนั้น จะส่งผลต่อร่างกายของเรา
ได้มากขนาดนี้ เพราะว่าจริงๆ แล้ว กาแฟเย็นหนึ่งแแก้ว ให้พลังงานสูงมาก
สูงจนน่าตกใจเลยทีเดียว เพราะว่านมข้น ครีมเทียม และน้ำตาลที่เติมลงไป
ทำให้มันให้พลังงานถึงเกือบ 400 แคลอรี่ ซึ่งเท่ากับกินขนมปังถึง 6 แผ่น หรือข้าว 3
ทัพพีเลยทีเดียว

ก็เลยไม่น่าแปลกใจว่า การดื่มกาแฟเย็น 1 แก้ว จะทำให้เราได้รับพลังงานส่วนเกิน
เกือบๆ จะเท่ากับการกินอาหารเพิ่มอีก 1 มื้อเลย แล้วมันจะไม่ทำให้อ้วนได้อย่างไร
ในเมื่อจากเรากินอาหาร วันละ 3 มื้อ กลายเป็นกินอาหาร วันละ 4 มื้อ
และมันอาจจะไม่ใช่ แค่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น



เพราะนมข้น ครีมเทียม และน้ำตาล ที่เติมลงไปในกาแฟเย็น อย่างมหาศาล
อาจจะส่งผลร้ายในอนาคต ที่มาพร้อมกับความอ้วน และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ นั่นคือ
คลอเรสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน และโรคหัวใจ
ซึ่งเป็นโรคชุด ที่ตามมากับน้ำหนักตัว ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

หลายคนก็คงบอกว่า วิธีแก้มันง่ายมาก ก็คือ เลิกดื่มกาแฟเย็นไง ไปดื่มกาแฟดำแทน
แต่คนที่แนะนำอย่างนี้ ก็น่าจะลองถามตัวเองว่า เคยดื่มกาแฟดำหรือเปล่า
เพราะสำหรับคนที่ดื่มเครื่องดื่ม ที่มีรสหวานมัน มาตลอดชีวิต
จะให้หักดิบไปดื่มเครื่องดื่มขมๆ มันก็ดูจะยากเกินไปหน่อย แบบนี้เลิกดื่มกาแฟไปเลย
อาจจะง่ายกว่าเสียอีก

แต่ครั้นจะให้ เลิกดื่มกาแฟไปเลย ก็ดูจะไม่ไหวอีก บางคนอาจจะบอกว่า ไม่ดื่มกาแฟ
แล้วจะมีแรง ไปทำงานได้อย่างไร คงจะเอาชนะ ความง่วงเหงาหาวนอนไม่ได้ คงจะได้มีหลับ
หรือสลึมสลือในห้องประชุมเป็นแน่ แล้วก็คงจะโดนเจ้านายตำหนิอีก
ชีวิตการงานดูท่าจะไม่สดใสแหง ฉะนั้นยอมอ้วนแล้วกลับไปดื่มกาแฟจะดีกว่า



วิธีแก้ที่พบกันตรงกลาง ระหว่างการดื่มกาแฟเย็น กับการไม่ดื่มกาแฟเลย
แล้วไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม แถมยังได้ดื่มกาแฟอยู่ นั่นคือ
การเลือกดื่มกาแฟลดน้ำหนักนั่นเอง เพราะกาแฟลดน้ำหนัก ให้พลังงานน้อย
แถมยังช่วยในเรื่องการเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ภายในร่างกายอีกด้วย

เพราะโดยปกติแล้วกาแฟ ก็มีฤทธิ์ ในการช่วยเพิ่มการเผาผลาญอยู่แล้ว แต่เติมนม
ครีมเทียม กับน้ำตาลลงไป อัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น คงต้านสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว
แต่สำหรับกาแฟลดน้ำหนักนั้น มักจะมีการเติมส่วนผสมอย่างอื่น ทดแทนนม ครีมเทียม
และน้ำตาล รวมไปถึงเพิ่มเติม สารที่ช่วยให้ร่างกายเรา มีอัตราการเผาผลาญ
ที่ดีขึ้นด้วย

ฉะนั้นลองปรับมุมมองใหม่ เริ่มดื่มกาแฟลดน้ำหนัก แล้วเราจะได้ชีวิตใหม่ ที่มีทั้ง
ความกระปรี้กระเปร่า ในการทำงาน และดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ เงินซื้อหาไม่ได้
อีกด้วย

>>> สนใจอาหารเสริม ดูแลสุขภาพของ Deeyium.com คลิ๊กที่นี่ <<<

ทำไมคนทั่วไปถึงไม่ดื่ม กาแฟลดน้ำหนัก



เมื่อมีคำว่า “ลดน้ำหนัก” ต่อท้ายคำว่า “กาแฟ” ดูเหมือนกับว่าคนจะกลัวคำว่า
“ลดน้ำหนัก” มากซะจน ไม่มีใครกล้าดื่มกิน ผลิตภัณฑ์ที่มีคำนี้ต่อท้าย ทั้งๆ
ที่ในบางครั้ง มันอาจจะดีต่อร่างกายมากกว่า สิ่งที่ไม่มีคำนี้ต่อท้ายก็ได้
แต่เพราะว่า ใครบางคนทำผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน
หรือใส่สารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เลยเกิดความเชื่อผิดๆ ขึ้น ดังนี้
  ความเชื่อที่ 1 กาแฟลดน้ำหนักนั้น เป็นอันตรายต่อร่างกาย
   อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า พอมีคำว่า “ลดน้ำหนัก” แล้ว
  ดูมันจะไม่ปลอดภัยไปเสียทุกอย่าง ๆทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว สารบางอย่างที่เติมลงไป
  ในกาแฟลดน้ำหนักนั้น ก็เป็นสารที่ปกติ เติมลงไปในอาหารเสริมอื่นๆ
  ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบการไปออกกำลังกายตาม Fitness ต่างๆ หรือใส่ใน Functional Drink
  ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด ดื่มกินกันเป็นปกติ นั่นคือ L-Carnitine
  ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ให้กับร่างกายของเรา

อย่างที่ผลการวิจัยทางการแพทย์แนะนำ ว่า L-Carnitine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนตัวหนึ่ง
ที่ร่างกายต้องการ และสามารถผลิตได้เอง แต่การรับสารตัวนี้ เพิ่มเข้าไป
ในปริมาณที่พอเหมาะ หรือในระดับที่ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
จะช่วยให้ร่างกายมีการเผาผลาญที่ดีขึ้น อาหารที่ทานเข้าไป ก็จะได้รับการดูดซึม
และสะสมแถวพุงน้อยลงด้วย
  ความเชื่อที่ 2 ราคามันแพงกว่ากาแฟทั่วไป
   ในเรื่องของราคา เป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะพูดยากสำหรับกาแฟลดน้ำหนัก
  และเถียงกันไม่รู้จบ เพราะอย่างไร กาแฟลดน้ำหนักก็มีประโยชน์กว่า กาแฟ 3 in 1
  ทั่วๆ ไป ที่ดื่มแล้ว รับประกันว่าอ้วนแน่นอน ถ้าการจ่ายเงินเพิ่ม
  อีกเพียงเล็กน้อย ช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกาย ที่ดีขึ้น ก็คงต้องแล้วแต่
  วิจารณญาณว่า เรายินดีจ่ายเพิ่ม เพื่อคุณภาพชีวิต และสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น
  หรือเปล่า

เรื่องนี้คงจะต้องขึ้นอยู่กับ วิธีคิดของคนที่ชอบดื่มกาแฟ และอยากจะดูแลสุขภาพด้วย
เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องแลก หากอยากจะได้ สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ก็จะต้องจ่ายเพิ่ม
ถ้าเรามองว่าคุ้ม ก็ซื้อได้เลย หากคิดว่า สุขภาพดีนั้น
คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม สำหรับการดื่มกาแฟ

วิธีการเลือกซื้อ กาแฟลดน้ำหนัก เบื้องต้น

หลังจากที่เราได้รู้ถึง เหตุผลที่ทำไมต้องดื่มกาแฟลดน้ำหนัก
และความเชื่อบางอย่างที่ผิดๆ เกี่ยวกับกาแฟลดน้ำหนักไปแล้ว สิ่งที่จะนำเสนอต่อไป
ก็คือ วิธีการเลือกซื้อกาแฟลดน้ำหนัก เบื้องต้น ดังนี้

1. ใช้สารให้ความหวานที่ ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย



มันคงจะไม่ดีแน่ ถ้ากาแฟลดน้ำหนักที่เราซื้อมา ไม่ได้ใส่น้ำตาล แต่ใส่ขัณฑสกรแทน
ซึ่งเป็นสารที่ ก่อมะเร็งในระยะยาว ทำให้เราผอมลง โรคชุดที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหายไป
แต่มะเร็งถามหา ซึ่งเราก็ต้องศึกษาให้ดีว่า กาแฟลดน้ำหนักที่เราตั้งใจจะซื้อนั้น
มีสารอะไรที่ทำให้เกิดมะเร็งหรือเปล่า

อย่างแอสปาแตม ก็ให้หลีกเลี่ยงไว้ เพราะถึงแม้ว่างานวิจัยในมนุษย์
จะยังไม่แน่ชัดว่า ก่อมะเร็งหรือไม่ แต่สำหรับการทดลองในหนู พบว่าก่อมะเร็งได้
สารที่เราแนะนำ คือ ซูคราโลส เพราะว่ามันได้รับการรับรองจาก FDA หรือ อย.
ของสหรัฐอเมริกา และ อย. ประเทศไทย ว่าปลอดภัย ไร้กังวล

2. ต้องไม่ใส่สารที่ช่วยลดความอ้วนโดยตรง ที่มีอยู่ในยา



กาแฟลดน้ำหนักบางยี่ห้อ ก็หัวใส แอบใส่ยาลดน้ำหนัก ไว้ในกาแฟ แล้วก็ไม่ยอมบอกด้วย
ว่ามีส่วนผสมนี้ เป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะทำให้กาแฟนั้น ไม่สามารถดื่มในปริมาณมาก
เพราะจะทำให้ได้รับยาลดน้ำหนัก มากเกินไป และเป็นพิษต่อร่างกาย
อาจถึงกับเสียชีวิตได้ สารที่พบบ่อยว่าแอบใส่ลงไป ในกาแฟลดน้ำหนัก คือ
สารไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งมีอันตรายต่อหลอดเลือดหัวใจ
และอาจทำให้หัวใจวายเฉียบพลันได้


หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่อยากจะลดน้ำหนักให้ได้ 14 กิโลกรัม ภายในเวลา 45 วัน
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่างมีวินัย การจัดเต็มกาแฟลดน้ำหนัก
ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ มันจะ “ให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน”
และมั่นใจได้เลยว่าถึงจะจัดเต็มแล้ว ลืมเรื่อง กิโลละ 10,000 บาท
ที่ต้องไปจ่ายตามคอร์สลดน้ำหนักอย่างแน่นอน

ชุดกาแฟลดน้ำหนัก 14 กิโล ใน 45 วัน




    อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว


อาหารเสริม





น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด




พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณต้องกิน น้ำมันรำข้าว ทำไมคนทั่วไป ถึงไม่กินน้ำมันรำข้าว
รวมถึงวิธีการเลือกซื้อน้ำมันรำข้าว และน้ำมันรำข้าว ที่ทำให้น้ำตาล
และคลอเลสเตอรอล เป็นปกติได้ ใน 3 เดือน ได้ที่นี่

ทำไมต้องกินน้ำมันรำข้าว



เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมที่ สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เพราะมันเป็นกฎของธรรมชาติ แต่สิ่งที่เราทุกคนเหมือนกัน ก็คือ
เราทุกคนอยากมีชีวิตอยู่จนแก่ จนสูงอายุ สูงวัย ไม่อยากตายเร็ว แต่ก็มีสิ่งหนึ่ง
ที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ นั่นคือ เราไม่อยากแก่ เพราะความแก่นั้น
จะนำมาสู่โรคภัยต่างๆ

โดยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เราต้องพบเจอนั้น แท้จริงแล้ว มันสามารถแบ่งได้เป็น 2
ประเภทใหญ่ๆ นั่นคือ “โรคที่เกิดจากเชื้อโรค” และ “โรคเสื่อม” เราจะมาดูกันว่า
โรคภัยไข้เจ็บ ที่เกิดขึ้นกับเรา ทั้ง 2 ประเภทนี้ มีความเหมือน
และความแตกต่างกันอย่างไร
  โรคที่เกิดจากเชื้อโรค: โรคภัยไข้เจ็บประเภทนี้ มีทั้งแบบธรรมดา
  ไม่กระทบกับชีวิตเราซักเท่าไหร่ เช่น โรคหวัด ท้องเสีย
  ซึ่งก็เป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรง กินยาแปปเดียวก็หาย หรือไม่กินก็สามารถหายเองได้
  กับโรคแบบร้ายแรง เช่น วัณโรค และโรคติดต่อต่างๆ โรคร้ายเหล่านี้
  รักษายากต้องกินยา ตามหมอสั่ง บางครั้งอาจมีอันตรายถึงชีวิต
  โรคเสื่อม: โรคเสื่อมนั้น เป็นโรคที่เกิดจาก การที่ร่างกายของเรา
  มีความเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา หลีกเลี่ยงได้ค่อนข้างยาก
  หากไม่มีการดูแลอย่างกายอย่างต่อเนื่อง แล้วยาก็มักจะรักษาไม่หายขาด
  ได้แต่พยุงให้ไม่ตาย แต่ยังไงก็ไม่หาย แถมยังมาพร้อมกับเป็นชุดด้วย เช่น
  ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง เป็นต้น



ในบางครั้ง เราจะพบว่า “โรคเสื่อม” มีความน่ากลัวกว่า “โรคที่เกิดจากเชื้อโรค”
เสียอีก เพราะมันรักษาไม่หาย บางครั้งอาจจะทำให้เราเป็นคนพิการ เช่น เบาหวาน
อาจจะนำมาซึ่งการตาบอด โดนตัดอวัยวะ ส่วนความดันโลหิตสูง
อาจจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เดินไม่ได้ รวมถึงมะเร็ง
ทำให้เราต้องทรมาน กับการทำเคโม หรือเคมีบำบัด
และอาจจะทำให้เรามีอันตรายถึงชีวิตด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ “โรคเสื่อม” ยังทำให้ร่างกายของเรา อ่อนแอลง และเปิดโอกาสให้
“โรคที่เกิดจากเชื้อโรค” เข้ามากลุ้มรุม ทำร้ายร่างกายของเรา ได้อย่างง่ายๆ อีกด้วย
แล้วมันจะมีวิธีไหน ที่เราจะสามารถหลีกเลี่ยง “โรคเสื่อม”
เพื่อที่จะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง ไม่พบกับโรคภัยไข้เจ็บ เหมือนกับที่พระพุทธเจ้า
มีพุทธวัจนะ ว่า “อโรคา ปรมา ลาภา” หรือ “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” ได้



คำตอบที่จะช่วยป้องกัน “โรคเสื่อม” ให้กับร่างกายเรา อาจจะมีมากมายหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก และผลไม้ กินแป้ง
และไขมันให้น้อยๆ งดอาหาร Fast Food ดื่มน้ำให้มากๆ และออกกำลังกาย
แต่คำตอบเหล่านี้ มันยากสำหรับวัยทำงาน ที่อาศัยอยู่ในสังคมเมือง ฉะนั้น
คำตอบที่เราแนะนำ เพื่อที่จะช่วยทดแทนสิ่งที่เราทำไม่ได้เหล่านี้ คือ
การกินน้ำมันรำข้าว นั่นเอง

มีงานวิจัยทางการแพทย์หลายฉบับ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บ่งชี้ว่า
ในสารสกัดจากรำข้าว หรือที่เรียกว่าน้ำมันรำข้าวนั้น มีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า
แกมม่า-ออริซานอล (Gamma-Oryzan0l) ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมาก
ในเรื่องของการช่วยลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด หรือเรียกง่ายๆ ว่า
เป็นการชำระล้างหลอดเลือด จากไขมันที่อุดตันนั่นเอง

การล้างหลอดเลือด โดยแกมม่า-ออริซานอลนั้น จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิต
ในร่างกายของเราดีขึ้น เพราะไม่มีไขมันไปอุดตัน ปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับ
ความดันโลหิตสูง หัวใจ และโรคเสื่อมอื่นๆ ก็จะน้อยลง
และไม่มีความจำเป็นต้องกินยามาก ทำให้ตับของเราไม่มีปัญหาด้วย

และแกมม่า-ออริซานอล ยังมีฤทธิ์ ช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกาย
ทำให้ฮอร์โมนต่างๆ อยู่ในระดับปกติ ชะลอการเกิดวัยทอง และชะลอความแก่
เพราะทำให้ร่างกายหลั่ง Growth Hormone เป็นปกติ ต่างจากคนทั่วไปที่ Growth Hormone
ซึ่งมีหน้าที่ซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอ มีการลดการหลั่งลงเรื่อยๆ

น้ำมันรำข้าวยังมีวิตามินอี ในกลุ่ม Tocal Group ช่วยให้ผิวนุ่ม และกระชับขึ้น
ลดการสร้างเม็ดสีผิว และอาการอักเสบ รวมไปถึงน้ำมันรำข้าว ยังมี Omega 3, 6 และ 9
กับ Lecitine สูง ทำให้ระบบประสาทและสมองเป็นปกติ ช่วยเสริมสร้างความจำ นอนหลับสนิท
และลดปัญหาเรื่องไมเกรน



จะเห็นได้ว่าน้ำมันรำข้าวนั้น จะช่วยในอาการเบื้องต้น 5 อย่างคือ
  ล้างหลอดเลือด ลดไขมันอุดตัน และระดับน้ำตาล ในเส้นเลือด
  ลดอาการนอนไม่หลับ
  ปรับฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนมาปกติ และลดอาการปวดประจำเดือน
  ลดอาการปวดหัวไมเกรน
  ลดอาการของโรคภูมิแพ้

>>> สนใจอาหารเสริม ดูแลสุขภาพของ Deeyium.com คลิ๊กที่นี่ <<<

ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน น้ำมันรำข้าว



มีความเข้าใจผิดๆ หลายอย่างเกี่ยวกับการที่ คนส่วนใหญ่มองว่า ไม่มีความจำเป็น
ที่จะต้องกินน้ำมันรำข้าวเลย บางส่วนอาจจะมองว่า เค้าก็กินข้าวอยู่ทุกวันแล้ว
แล้วมันยังไม่ได้น้ำมันรำข้าวเข้าไปในร่างกายอีกหรือ บางคนก็คิดว่า
ข้าวไทยมันจะวิเศษแค่ไหนกัน ข้าวของที่อื่นมันจะดีกว่ารึเปล่า
และแค่ล้างหลอดเลือดได้ มันจะช่วยแก้ปัญหาโรคเสื่อมอย่างอื่นได้จริงหรือ
เราจะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้กัน
  ความเชื่อที่ 1 เราคนไทย ต้องกินข้าวอยู่ทุกวัน แล้วทำไมต้องกินน้ำมันรำข้าวด้วย
  เราอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมคนไทยโบราณถึงไม่เคยมีปัญหาเรื่อง
  โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดเลย แล้วโรคมะเร็งก็น่าจะ
  ไม่ค่อยมีเกิดกับคนไทยโบราณด้วย แท้จริงแล้ว เพราะว่าคนไทยเรากินข้าว
  มาแต่โบร่ำโบราณแล้ว เลยทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ความเชื่อนี้จริงๆ แล้วถูกต้องอยู่
  แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะคนโบราณกินข้าวซ้อมมือ และสีข้าวแล้วกินเลย
  ทำให้ได้รับสารแกมม่า-ออริซานอล อย่างเต็มที่ ไม่เหมือนอย่างคนปัจจุบัน
  ที่กินข้าวขาว

ฉะนั้นการกินข้าวเพียงอย่างเดียว จึงทำให้เราไม่ได้รับน้ำมันรำข้าวไปด้วย
เพราะส่วนที่เป็นรำข้าว และจมูกข้าว ที่ติดอยู่กับเปลือกข้าวนั้น
ถูกขัดสีออกไปหมดแล้ว เราจึงไม่ได้รับสารอาหารที่อยู่ในข้าวอย่างเต็มที่
หรือจะเรียกว่ากินข้าวไม่เต็มเมล็ดก็ได้
  ความเชื่อที่ 2 ข้าวไทยมันจะวิเศษแค่ไหนกัน ของต่างประเทศน่าจะดีกว่าหรือเปล่า
   ความเชื่อนี้ ดูเหมือนจะถูกต้อง ตามความรู้สึกของคนทั่วไป ที่มักจะมองว่า
  “ของนอก” มันดีกว่า “ของไทย” แต่ที่จริงแล้ว มันผิดมหันต์เลย เพราะจากงานวิจัย
  พบว่า ข้าวไทยนั้น มีสารแกมม่า-ออริซานอล สูงที่สุดในโลก ข้าวจีน
  และญี่ปุ่นอาจจะมีอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนข้าวทางยุโรปนั้นไม่มีเลย

ดิน น้ำ และลมฟ้าอากาศ มีผลต่อสินค้าเกษตรยังไง ก็มีผลต่อข้าวอย่างนั้น คล้ายๆ
กับส้มบางมด เมื่อเอาไปปลูกที่ทำเลอื่น รสชาติก็ไม่เหมือนเดิม ไม่หวาน ไม่อร่อย
จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า ข้าวไทยนั้น วิเศษจริงๆ ไม่ใช่ต้องใช้วัตถุดิบทุกอย่าง
จากต่างประเทศ
  ความเชื่อที่ 3 แค่ล้างหลอดเลือดได้ แล้วจะไม่มีโรคเสื่อมอื่นๆ ตามมาจริงหรอ
   คำตอบง่ายๆ เลย ก็คือ การล้างหลอดเลือดนั้น เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
  เมื่อต้นเหตุของโรคเสื่อมต่างๆ หายไป โรคเสื่อมก็หายไปด้วย เพราะโดยปกติหากไขมัน
  ไปอุดตันที่แขนขา ก็อาจจะไม่เป็นไร เพราะเป็นแค่เส้นเลือดขอด
  แต่ถ้าไปอุดตันใกล้ๆ กับหัวใจ ก็เตรียมตัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  ต้องไปทำบอลลูน ส่วนถ้าอุดตันในสมอง ก็เสี่ยงกับเส้นเลือดในสมองตีบตัน หรือแตก
  เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้

เมื่อหลอดเลือดสะอาด ไม่มีไขมันอุดตัน “โรคเสื่อม” ก็ไม่ถามหา
“โรคที่เกิดจากเชื้อโรค” ก็จะไม่มีโอกาสได้ซ้ำเติม ร่างกายของเราได้
เลือดลมของเราก็จะเดินดี เราก็จะมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงไปได้อีกนาน
และสามารถชะลอการสึกหรอของร่างกายได้

วิธีการเลือกซื้อ น้ำมันรำข้าว เบื้องต้น

ด้วยความที่น้ำมันรำข้าว มีประโยชน์มหาศาล
และข้าวไทยก็เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในประเทศ เลยมีผู้ผลิตมากมาย เข้ามาร่วมผลิต
และจำหน่าย แล้วเราจะมีวิธีการเลือกซื้อน้ำมันรำข้าวอย่างไร ในส่วนนี้จะบอก
วิธีการเลือกซื้อเบื้องต้น 2 ข้อ คือ

1. น้ำมันรำข้าวที่สมบูรณ์ต้องมีการสกัดภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากการสีข้าว



หากสีข้าวแล้ว ยังไม่ได้นำรำข้าว และจมูกข้าว มาสกัดภายใน 24 ชั่วโมง
สารแกมม่า-ออริซานอล จะสูญสลายไป เนื่องจากโดนอากาศ และแสงแดด ฉะนั้นน้ำมันรำข้าว
ที่ไม่มีการตรวจสอบความสดของรำข้าว ว่าไม่เกิน 24 ชั่วโมง
จะเป็นน้ำมันรำข้าวที่ไม่สมบูรณ์ และเราที่กินเข้าไป
จะไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

2. ต้องไม่มีสารเฮกเซน (Hexane) ตกค้าง



เพราะการสกัด น้ำมันรำข้าว นั้น จำเป็นต้องใช้สารพิษตัวหนึ่ง ที่ชื่อว่า เฮกเซน
(Hexane) เป็นสารสำคัญในการสกัดน้ำมันรำข้าว ซึ่งตามมาตรฐานของ
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) บอกว่า ห้ามมีเฮกเซนเกิน 30 ส่วนใน 1
ล้านส่วน หรือ 30 ppm จึงจะกินแล้วปลอดภัย แต่ก็คงจะดีกว่า
หากน้ำมันรำข้าวที่เรากินเข้าไป ไม่มีเฮกเซนตกค้างอยู่เลย เพราะว่าเฮกเซนนั้น
เมื่อกินเข้าไปมากๆ จะมีการสะสม และก่อให้เกิดมะเร็งได้



อาหารเสริม





อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ




พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณจำเป็นต้องกิน อาหารเสริม
ทำไมคนทั่วไปถึงไม่ชอบอาหารเสริม รวมถึงวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมอย่างถูกวิธี
และหากคุณไม่อยากกินอาหารเสริม คุณจำเป็นต้องปฏิบัติตนอย่างไร และวิธี Detox
ลำไส้ง่ายๆ ใน 5 วัน

ทำไมต้องกินอาหารเสริม



หลายต่อหลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ทำไมเค้าจำเป็นต้องกินอาหารเสริมด้วย
ในเมื่อเค้าก็กินอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ สดใหม่ และครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำก็วันละ 8
แก้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขบอก ออกกำลังกายบ้างเป็นครั้งคราว นอนหลับพักผ่อน
ก็มากกว่าคืนละ 6 ชั่วโมง แล้วทำไมต้องกินอาหารเสริมด้วยล่ะ

แต่ผู้คนกลุ่มนั้น ก็ลืมคิดไปว่า ถึงจะกินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ก็เป็น ข้าวกระเพราหมู
ใส่ไข่ดาว กับผลไม้ดอง หรือข้าวผัดกุ้ง กับกล้วยทอด สิ่งที่เราอยากจะถามคนกลุ่มนั้น
คือ อาหารที่ว่ามานี้ ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยม สำหรับคนทำงานออฟฟิตทั้งหลาย
ว่าแม้มันจะครบ 5 หมู่ แต่มันได้สัดส่วนที่ ร่างกายของเราต้องการ
ในแต่ละวันหรือเปล่า

ถ้าดูจากในรูป ซึ่งเป็นสัดส่วนอาหาร ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
แนะนำโดยรัฐบาลอังกฤษ ก็จะพบว่า ร่างกายเราต้องการอาหาร ในสัดส่วนดังนี้
คาร์โบไฮเดรต จากอาหารจำพวก ข้าว แป้ง น้ำตาล ประมาณ 3 ส่วน วิตามินและเกลือแร่
จากอาหารจำพวก ผัก และผลไม้ต่างๆ ประมาณ 4 ส่วน และโปรตีน จากอาหารจำพวก เนื้อสัตว์
และผลิตภัณฑ์จากนม ประมาณ 3 ส่วน



แต่สิ่งที่ คนในวัยทำงาน หรือแม้แต่วัยรุ่นที่ชอบกินอาหารจานด่วนทั้งหลาย
ชอบกินอยู่เสมอๆ มักจะเป็น สัดส่วนแบบว่า แป้ง 7 ส่วน ผักและผลไม้ 1 ส่วน
และเนื้อสัตว์ 2 ส่วน ฉะนั้น หากเราไม่หลอกตัวเอง อาหาร 5 หมู่ที่เรากินเข้าไปนั้น
ไม่ได้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเราเลย เพราะวันๆ หนึ่ง เรากินข้าวเยอะ
เนื้อสัตว์น้อย ส่วนใยอาหารนี่ เรียกได้ว่า โครตน้อยก็ว่าได้

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ พอเราอายุมากขึ้น หรือตั้งแต่หลัง 30 เป็นต้นไป
สิ่งที่เราจะตรวจพบ ในผลการตรวจร่างกายของเรา ก็คือ น้ำตาลเกิน จากการกินของหวาน
หรือดื่มน้ำอัดลม คลอเรสเตอรอล และไตรกลีเซอลไรด์เกิน จากการกินอาหารทอดๆ มันๆ
ค่าตับมีปัญหา จากการดื่มเหล้า เบียร์ ที่มากเกินไป



สิ่งเหล่านี้ ทำให้คนที่ขึ้นเลข 3 มักจะมีน้ำหนักมากเกิน หรือจะเรียกว่าอ้วนก็ได้
และมีความเสี่ยงที่จะเป็น โรคเสื่อมต่างๆ ถามหา เช่น เบาหวาน
ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคตับ หรือแม้แต่
ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง ในอนาคต

ด้วยความที่มันยากมาก สำหรับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ
แล้วจะกินอาหารได้ตามสัดส่วนที่เหมาะสม อาหารเสริมจึงเข้ามามีบทบาท
ที่จะช่วยเติมเต็ม และปรับสมดุล ให้กับอาหารที่เรากินเข้าไป ในแต่ละวัน

ซึ่งเมื่อเรากินอาหารเสริม ร่วมกับอาหารที่กินตามปกติ ก็จะช่วยให้ เราลดความเสี่ยง
ที่จะเกิดโรคเสื่อมต่างๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น หากไม่กินอาหารเสริมแล้ว
เราอาจจะได้มีประสบการณ์ เหมือนคำกล่าวที่ว่า “วันนี้ดูดีจากภายนอก
แต่ไม่รู้จะมีอะไรงอกจากภายใน” ก็เป็นได้



ทำไมคนทั่วไปถึงไม่ชอบ อาหารเสริม



ในความรู้สึกของคนทั่วไป มักจะมองว่า อาหารเสริมกับยา เป็นสิ่งเดียวกัน
และคิดว่าอาหารเสริมช่วยรักษาโรคได้ หรือมีมุมมองบางอย่างที่ผิด เช่น
อาหารเสริมก็คงเหมือนกับยา ที่กินเยอะแล้วไม่ดี มันจะสะสมในร่างกาย
หรือทำให้ร่างกายมีปัญหา แต่ที่จริงแล้ว มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
  ความเชื่อที่ 1 ไม่เห็นต้องกินอาหารเสริมเลย เพราะถ้าป่วยก็กินยาได้
   แท้จริงแล้ว การกินยา ก็ไม่ต่างอะไรกับ สิ่งที่สุภาษิตไทยบอกไว้ว่า
  “วัวหายล้อมคอก” จะเห็นได้ว่า เราจะกินยา เมื่อเราป่วย หรือไม่สบาย
  แต่ถ้าเราสบายดี ก็คงจะไม่กินยา แล้วทำไมเราถึงไม่ทำร่างกายให้แข็งแรง
  เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมากินยา เพื่อรักษาอาการป่วยของเราภายหลัง

ซึ่งก็หมายถึง มันคงจะดีกว่า หากเราทานอาหารเสริมอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้ร่างกายของเราแข็งแรงห่างจาก โรคเสื่อมต่างๆ และมีร่างกายที่สมดุล
  ความเชื่อที่ 2 อาหารเสริมเหมือนกับยา กินเยอะไม่ดี ทำให้ร่างกายมีปัญหา
   การที่อาหารเสริม จะได้รับการขึ้นทะเบียนได้นั้น
  จำเป็นต้องมีการทดสอบจากหน่วยงานรัฐ ที่มีลักษณะเดียวกับ FDA ในสหรัฐ อย.
  ในประเทศไทย หรือหน่วยงานที่มีลักษณะเดียวกัน ในประเทศนั้นๆ
  ว่าการรับประเทานเข้าไปในปริมาณมาก จะไม่ทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย ถึงขนาดที่ว่า
  ต้องกินวันหนึ่งหลายร้อยเม็ด ถึงจะทำให้ร่างกายมีปัญหา
  จึงจะนำมาขึ้นทะเบียนเป็นอาหารเสริมได้ แต่ถ้ายานั้น กินเยอะไม่ได้
  ต้องมีการบ่งชี้ว่า ใช้ได้ไม่เกินเท่าไหร่ต่อครั้ง

ซึ่งก็หมายถึง อาหารเสริมกินแล้ว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย กินเยอะก็ไม่เป็นไร
ไม่ทำให้ร่างกายมีปัญหา ต่างจากยา ที่กินเยอะไม่ได้ ต้องกินตามหมอสั่ง
หรือระบุไว้ที่ฉลากยา

วิธีการเลือกซื้อ อาหารเสริม เบื้องต้น

หลังจากที่ ได้เห็นความจำเป็น ในการกินอาหารเสริมไปแล้ว
แล้วอาหารเสริมแบบไหนที่เราควรกิน เราควรจะเลือกซื้ออาหารเสริมตัวไหน
ที่มันจะดีต่อสุขภาพเราจริงๆ

1. อาหารเสริมต้องไม่ใช่ยา



ต้องสังเกตให้ดี อย่าหลงกลคำโฆษณาชวนเชื่อ ของอาหารเสริมยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งง่ายๆ
บางครั้งสิ่งที่อาหารเสริมบางยี่ห้อ เอามาขาย อาจจะไม่ใช่อาหารเสริมก็ได้
แต่ว่าเป็นยา เพราะว่าที่ฉลากมีการบ่งบอกอย่างชัดเจน ว่ามันคือยา
และห้ามกินเกินกี่เม็ดต่อวัน ถ้าซื้อสิ่งที่เป็นยา มาใช้แทนอาหารเสริม
และเผลอกินเข้าไป มากกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย อาจะถึงตายได้

2. อาหารเสริมควรเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ



สารสังเคราะห์ ยังไงก็สู้สารสกัดจากธรรมชาติไม่ได้ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า
เค้าเอาสารสังเคราะห์มาจากไหน อาจจะบดมากจากหินก็ได้ และสารสังเคราะห์ยังมีโอากส
ที่จะทำให้ร่างกายเป็นนิ่ว และยังดูดซึมได้ไม่เต็มที่ เท่ากับสารสกัดจากธรรมชาติ
ถ้าเรากินอาหารเสริม ที่ทำมาจากสารสังเคราะห์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับ
การกินยาซักเท่าไหร่เลย

3. อาหารเสริมควรจะไม่มีสารพิษตกค้าง



แม้เราจะเลือก อาหารเสริมที่ไม่ใช่ยาแล้ว และยังเลือกตัวที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ หากอาหารเสริมที่เราเลือก
ไม่สามารถให้ความมั่นใจกับเราได้ว่า มันจะไม่มีสารพิษตกค้าง หลงเหลืออยู่
หากอาหารเสริมที่เราเลือก มีสารพิษตกค้างแล้ว แทนที่มันจะดีต่อร่างกายเรา
มันจะกลายเป็นสิ่งที่ร้ายกาจ และทำลายร่างกายเรา แทนที่เราจะได้รับประโยชน์
จากอาหารเสริม อย่างเต็มที่ กลับต้องมามีสารพิษสะสมในร่างกาย คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน



หากไม่อยากกินอาหารเสริม จะทำอย่างไรดี

สุดท้ายนี้ มีคำแนะนำ 5 ข้อ สำหรับผู้ที่ไม่อยากกินอาหารเสริม
หากทำได้ครบทุกข้ออย่างเคร่งครัด อาหารเสริมอาจจะเป็นส่วนเกินในชีวิตก็ได้
แต่ถ้าทำไม่ได้ครบ 5 ข้อนี้ อาหารเสริมจะช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ขาดได้

1. พักผ่อนให้เพียงพอ



การพักผ่อนให้เพียงพอในที่นี้ ไม่ใช่แค่เพียงนอนหลับวันละ 6 ชั่วโมงต่อวัน เท่านั้น
เรายังจำเป็นที่จะต้องนอนก่อนเที่ยงคืน ให้ได้อีกด้วย เพื่อที่ร่างกายจะได้หลั่ง
Growth Hormone มาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ในร่างกายของเราได้อย่างเต็มที่

2. ปั่นน้ำผักกินเอง



สิ่งที่คนทั่วไปมักจะขาด คือ ได้รับใยอาหาร และวิตามิน กับเกลือแร่ น้อยเกินไป
ทางออกที่ดีที่สุด หากไม่กินอาหารเสริม คือ การปั่นน้ำผักกินเอง แบบไม่แยกกาก
และต้องเป็นผักหลากหลายสี เพื่อให้เราได้รับสารที่มาจากสีสันของผักต่างๆ เช่น
คลอโรฟีลล์ หรือเบต้า แคโรทีน อย่างเต็มที่ และหลีกเลี่ยงการดื่มผลไม้ปั่น
เพราะจะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ



ดื่มน้ำให้เพียงพอนั้น ไม่ใช่แค่เพียงดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
อย่างที่เราเคยเรียนมาตั้งแต่เด็ก แต่เราต้องแบ่งดื่ม ครั้งละ 1-2 แก้ว
โดยเฉพาะระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งแพทย์แนะนำให้ดื่มน้ำไม่เกิน 400 มิลลิลิตร ต่อมื้อ
(รวมน้ำที่อยู่ในอาหารด้วย) เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง และย่อยอาหารได้ช้าลง
อาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย หรือมีแก๊สในกระเพราะอาหารได้

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ



คำว่าสม่ำเสมอ ในที่นี้ ก็ยังมีการบ่งชี้ว่า ต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิก
หรือพวกปั่นจักรยาน วิ่ง ว่ายน้ำ วันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
และออกกำลังกายแบบยกเวท วันละ 30 นาที 2 วันต่อสัปดาห์
หากออกกำลังกายได้น้อยกว่านี้ ก็ยังถือว่าออกกำลังกายได้อย่างไม่เต็มที่

5. ขับถ่ายช่วงเวลา ตี 5 ถึง 7 โมงเช้า ทุกวัน



ช่วงตี 5 ถึง 7 โมงเช้านั้น เป็นช่วงที่ลำไส้ของมนุษย์ พร้อมแก่การขับถ่ายมากที่สุด
หากเราขับถ่ายหลัง 7 โมงเช้า เราจะถ่ายไม่หมด เพราะว่าลำไส้ของเราจะบีบตัว
และทำให้อุจจาระ ถูกดันกลับเข้าไปในลำไส้ ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
และเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ด้วย จากการผ่าศพนั้น บางครั้งจะเห็นว่า
มีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้ถึง 10 กิโลกรัม ซึ่งหากเราไม่สามารถถ่ายเวลานี้ได้ทุกวัน
เราก็อาจจะกิน อาหารเสริม ประเภท ไฟเบอร์ ก็จะช่วยได้

อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว



อาหารเสริม





วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้



พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณจำเป็นต้องกิน วิตามินบำรุงผิว ทำไมคนทั่วไป
ถึงไม่กินวิตามินบำรุงผิว รวมถึงวิธีการเลือกซื้อวิตามินบำรุงผิวอย่างถูกวิธี
ได้ที่นี่

ทำไมต้องกินวิตามินบำรุงผิว



ร่างกายของเราที่คุณพ่อคุณแม่ให้มา ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะอยู่กับเราตลอดไป
เราคงหนีจากธรรมชาติ ของชีวิตไปได้ นั่นก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
แม้ความตายจะดูเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ในฐานะมนุษย์ปุถุชนธรรมดา
แต่สิ่งที่ทำให้เราทรมานใจมากที่สุด น่าจะเป็นความแก่ซะมากกว่า

เพราะเรี่ยวแรงที่น้อยลง บวกกับกำลังวังชาที่ถดถอย
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวกายของเราที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัย อายุที่มากขึ้น
ก็นำมาซึ่งริ้วรอยแห่งวัย ฝ้า กระ ความเหี่ยวย่นที่ใครๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ก็ยากที่จะรับได้ เช่นเดียวกัน ทำให้ผู้คนมากมาย พยายามหาวิธี
ที่จะเอาชนะธรรมชาติให้ได้

แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่สามารถชนะได้อยู่ดี มนุษย์เราสามารถทำได้ดีที่สุด
ก็เพียงแค่ ทำให้ความแก่ มาหาเราได้ช้าลง เท่านั้นเอง ซึ่งนั่นก็มากพอ
ที่จะทำให้ผู้คนถวิลหา วิธีการชะลอความเสื่อมของร่างกาย และความเหี่ยวย่นของผิวกาย
รวมไปถึงผิวหน้าด้วย ทุกคนยินยอม พร้อมใจที่จะจ่าย เสียเงิน เสียทองมากมาย
เพื่อที่จะดำรงไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์



ความต้องการเหล่านี้ นำมาซึ่ง ตลาดของเครื่องประทินผิวต่างๆ ในกลุ่มของ Skin Care
ที่จะช่วยให้ แก่ช้าลง ตั้งแต่เริ่มต้นล้างหน้า ไปจนถึงขั้นตอนการบำรุง
ไม่ว่าจะเป็น Foam, Gel, Cream ล้างหน้า ที่มีการแบ่ง ตามสภาพผิวของผู้ใช้
และมีการเติมส่วนผสม ที่จะช่วยบำรุงผิวหน้าโดยเฉพาะ อย่างที่รู้ๆ กัน
ว่าจะใช้สบู่ที่ใช้ฟอกกาย มาล้างหน้า ก็คงจะไม่ดีแน่

ต่อด้วยการใช้ Toner เช็ดสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่หลังการล้างหน้า
ตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว จำพวก Day Cream + Sun Block, Night Cream, Eye Cream และ
Serum อะไรก็ว่ากันไป สิ่งเหล่านี้ คือ ที่ใช้อยู่ทุกวัน และมีที่ใช้สัปดาห์ละ 1
ครั้งด้วย เช่น Scrub และ Mask เพื่อการขัด และชำระล้างสิ่งสกปรกบนผิวหน้า
อย่างล้ำลึก เพื่อให้ผิวหน้ากระจ่างใส



หรือบางคนอาจจะ ไม่อยากแก่ แต่ไม่อยากใช้ Skin Care ทุกวัน อาจจะด้วย เพราะขี้เกียจ
ขาดวินัย ไม่มีเวลา หรือเหตุผลอื่นก็แล้วแต่ บวกกับมีเงินในกระเป๋าที่ค่อนข้างมาก
ก็อาจจะเลือกการไปสปาผิว มีการทำ Treatment หรืออะไรก็ว่าไป เพื่อบำรุงอย่างเข้มข้น
ในระดับที่ทำทุกวันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม วิธีการดูแลผิวหน้า ที่กล่าวไปข้างต้น ล้วนแล้วแต่
เป็นการดูแลผิวจากภายนอก และอย่างที่เราทราบกันดีว่า Skin Care และ Treatment
ทุกชนิด มีการออกฤทธิ์บำรุงกับแค่เพียง ชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น
แต่ไม่ได้มีการบำรุงถึงชั้นหนังแท้ แต่อย่างใด

ฉะนั้น หากเราไม่หลอกตัวเอง ก็จะรู้ได้ทันทีว่าการบำรุงผิวจากภายนอก
น่าจะไม่เพียงพอ ต่อการบำรุงผิวอย่างเต็มที่ ทำให้การบำรุงผิวจากภายใน
เข้ามามีบทบาท ในการสร้างความเยาว์วัยด้วย ทีนี้เราก็มาดูกันว่า
การบำรุงผิวจากภายในนั้น เราต้องทำอย่างไรบ้าง



ง่ายที่สุดเลย ที่เราได้ยินอยู่เป็นประจำ นั่นคือ การกินมะเขือเทศ เพราะใครๆ
ก็รู้ว่ากินมะเขือเทศแล้วจะทำให้ผิวดี แต่ก็อีกนั่นแหละ มีน้อยคนนัก ที่จะรู้ว่า
ที่จริงแล้ว วันๆ หนึ่ง ต้องกินมะเขือเทศถึง 100 ลูก ร่างกายของเรา ถึงจะได้รับสาร
ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยให้ผิวพรรณ เปล่งปลั่ง มีเลือดฝาด อย่างเพียงพอ

ซึ่งถ้าเราไม่หลอกตัวเองอีกเช่นกัน ว่าสามารถกินมะเชือเทศได้ถึง วันละ 100 ลูก
เราก็ควรจะหาอะไรกินเข้าไปเพิ่มอีก เพื่อให้ร่างกายของเรา
ได้รับสารที่จำเป็นต่อการสู้กับ ความเสื่อมของร่างกาย ที่จะแสดงออกมาทางผิวกายได้
ทำให้วิตามินบำรุงผิว จึงเข้ามามีบทบาท ในการเติมเต็มในส่วนที่ ร่างกายของเราได้รับ
ไม่เต็มที่ นั่นเอง เพื่อที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพผิวกายที่ดี
และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างแท้จริง



ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน วิตามินบำรุงผิว



ทั้งๆ ที่ วิตามินบำรุงผิวมีประโยชน์ และช่วยในเรื่องของ
การบำรุงผิวจากภายในได้จริงๆ แต่คนส่วนใหญ่ ก็ยังมองไม่เห็นความสำคัญของมัน
อาจจะด้วยเพราะความเชื่อบางอย่าง ที่ตีกรอบความคิดเอาไว้ เช่น แค่ดูแลผิวด้วย Skin
Care ก็พอแล้ว หรือความเชื่อที่ว่า ตนเองได้รับอาหารผิวอย่างเต็มที่แล้ว
เราจะมาดูกันว่า ความเชื่อเหล่านี้มัน จริง เท็จ แค่ไหน
  ความเชื่อที่ 1 ใช้ Skin Care กับทำ Treatment แล้ว จะกินวิตามินบำรุงผิวทำไม
  อย่างที่บอกไว้ ในช่วงแรกของบทความว่า การบำรุงผิวจากภายนอก ด้วยการใช้ Skin Care
  และทำ Treatment จะบำรุงได้เพียงแค่ ชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น
  ทีนี้แล้วชั้นหนังแท้ละ ไม่ต้องบำรุงเลยหรอ จะปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรม
  หรืออย่างไร หรือเราควรจะดูแลอย่างเต็มที่ ให้กับผิวหนังทั้งสองชั้นของเรา

ฉะนั้น การใช้วิตามินบำรุงผิว จะช่วยเติมเต็มการบำรุงผิว ให้ครบวงจร ทั้งภายใน
และภายนอก ทั้งผิวหนังชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ เพื่อการชะลอความแก่
ได้อย่างแท้จริง และมีผิวที่เปล่งปลั่ง ขาวอมชมพู มีเลือดฝาด
  ความเชื่อที่ 2 กินอาหารที่ดีต่อผิวแล้ว ทำไมต้องกินวิตามินบำรุงผิวอีก
   บางคนบอกว่า เค้าไม่กินของทอด กินแต่ผัก ผลไม้ ไม่กินอะไร ที่ส่งผลเสียต่อผิวเลย
  แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังไม่พออยู่ดี เค้าคงไม่มีโอกาสกินมะเขือเทศวันละ 100 ลูก
  หรือกินคอลลาเจน ในระดับที่เพียงพอ รวมไปถึง Co-Enzyme  Q10
  ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว

ฉะนั้น คำตอบง่ายๆ กินวิตามินบำรุงผิว จะช่วยให้เราได้รับ สารอาหาร
ที่จำเป็นต่อการดูแลผิว อย่างครบถ้วน อย่าเสี่ยงกับการคิดว่ากินอาหาร ครบถ้วนแล้ว
ไม่ต้องกินวิตามินบำรุงผิวหรอก ถึงเวลานั้น ที่ร่างกายเสื่อมไปแล้ว
มันอาจจะแก้ไม่ทันก็ได้

วิธีการเลือกซื้อ วิตามินบำรุงผิว เบื้องต้น

แล้วคำถามที่เกิดขึ้น หลังจากรู้แล้วว่าต้องกินวิตามินบำรุงผิว ก็คือ
เรื่องของการเลือกซื้อ ว่าจะมีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร ถึงจะแน่ใจได้ว่า
กินแล้วดีต่อสุขภาพของเรา และไม่มีสารตกค้าง

1. ใช้สารจากธรรมชาติที่ มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ



เราคงต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น นั่นคือ เรื่องของการใช้สารจากธรรมชาติ
กับการที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ ซึ่งสารจากธรรมชาติ แน่นอนว่า
จะต้องดีกว่าสารสังเคราะห์ เพราะไม่ได้บดหิน บดดินมาให้เรากิน
สุดท้ายกินแล้วก็ไปสะสมในร่างกาย

ส่วนประเด็นเรื่อง มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับ ก็มีความจำเป็น
เพราะมันเป็นสิ่งที่เราเอาเข้าไปในร่างกายของเรา คงจะปล่อยให้ยาผีบอก
เข้าไปในร่างกายของเรา แล้วทำให้มีปัญหาก็คงจะไม่ดี อย่างแน่นอน
ซึ่งสารที่มั่นใจได้ว่าช่วยดูแลผิวเรา ก็ได้แก่ Collagen, Co-Ezyme Q10
และสารไลโคปีน จากมะเขือเทศ

2. ไม่ใช้ สเตียรอยด์ เป็นส่วนผสม



ใครๆ ก็รู้ว่า สเตียรอยด์ ช่วยในเรื่องความขาวได้เช่นกัน แต่มันก็น่ากลัวมาก
เพราะผลข้างเคียงในเรื่องของ การเป็นสารก่อมะเร็ง หากเราได้ผิวสวยแบบซีดๆ
แล้วสุดท้ายได้มะเร็งมาด้วย ก็คงจะไม่เป็นการดี



สุขภาพผิวดีขึ้นใน 9 วัน ด้วยวิตามินบำรุงผิว



หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่คิดว่า สุขภาพผิวเราคงจะไม่ดีไปกว่านี้ ได้เท่านี้ก็บุญแล้ว
หมองคล้ำหน่อยจะเป็นไรไป การจัดเต็มอาหารเสริมผิวขาว ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ มันจะ
“ทำให้สุขภาพผิวคุณดีขึ้น ได้อย่างแน่นอน” และมั่นใจได้เลยว่าเมื่อจัดเต็มแล้ว
ลืมเรื่อง ความหมองคล้ำ และการทำ Treatment ที่ร้านหมอไปได้เลย

อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว





อาหารเสริม





น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด



พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณต้องกิน น้ำมันปลา ทำไมคนทั่วไป ถึงไม่กิน Fish Oil
รวมถึงวิธีการเลือกซื้อน้ำมันปลา ได้ที่นี่

Fish Oil จะกินไปเพื่ออะไร



น้ำมันปลานั้น ไม่ใช่น้ำมันตับปลา อย่างที่คนส่วนใหญ่ เข้าใจผิด เพราะน้ำมันปลานั้น
โดยปกติจะสกัดจาก เนื้อ หนัง หัว และหาง ของปลาทะเลน้ำลึก ที่อาศัยอยู่น่านน้ำ
ในเขตหนาว มนุษย์เราค้นพบน้ำมันปลาได้ โดยบังเอิญ ในปี 1976
จากการที่นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตวิถีชีวิตของชาวเอสกิโม

และพบว่า ชาวเอสกิโมนั้น มีระดับไขมันในเส้นเลือดที่ต่ำ
และไม่มีปัญหาที่ตามมาจากโรคในระบบหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง
หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจ เป็นต้น ผิดกับ ชาวเดนมาร์กที่อาศัยอยู่
ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ แต่ผลการตรวจเลือดกลับเป็นตรงกันข้าม
ชาวเดนมาร์กมีปัญหาในระบบหลอดเลือดมาก



สิ่งที่ต่างกัน สำหรับกลุ่มคน 2 กลุ่มนี้ คือ เรื่องของอาหารการกิน ชาวเอสกิโมนั้น
เลี้ยงชีพด้วยการจับปลา จึงกินปลาเป็นหลัก ขณะที่ชาวเดนมาร์ก
ก็กินอาหารเหมือนกับคนทั่วๆ ไป บนโลก นั่นคือ กินเนื้อสัตว์ และนม และอีก 4 ปีต่อมา
ในปี 1980 ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ก็สอดคล้องกับที่เคยพบ
ในชาวเอสกิโม

นั่นคือ ชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในหมู่บ้านชาวประมง มีไขมันในเลือดต่ำกว่า
ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองมาก จึงทำให้มีการวิจัยถึง คุณสมบัติ
และคุณประโยชน์ของน้ำมันปลา อย่างจริงจัง จึงพบว่าในน้ำมันปลา มีสาร Omega 3 และ
Omega 6 สูง ซึ่งสาร 2 ตัวนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจ เป็นต้น



และน้ำมันปลา ยังมีสาร DHA สูง ซึ่งสาร DHA เป็นส่วนหนึ่งของเซลล์สมอง
และเซลล์ประสาท ที่มีผลต่อ สติปัญญา หากร่างกายขาด DHA จะทำให้เซลล์สมอง
และเซลล์ประสาท ขาดประสิทธิภาพไปด้วย เด็กจึงควรได้รับ DHA ในปริมาณที่เหมาะสม
เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของสมอง

ในขณะที่ผู้ใหญ่ ก็ต้องการ DHA สูงเช่นกัน เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต
ของปลายประสาท ของเซลล์สมอง ซึ่งทำหน้าที่ ถ่ายทอดสัญญาณ
และผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้สมองทำงานดีขึ้น หากกินอาหารที่มี DHA
จำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สัดส่วนของ DHA ในสมองสูงขึ้น ความเครียดจะลดลง
และสมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับผู้สูงอายุ จะเกิดภาวะสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้ง่ายกว่า คนในวัยอื่นๆ
โดยไม่ทราบแน่ชัดว่า เกิดจากสาเหตุอะไร แต่จากการทดลอง โดยการให้ DHA
แก่ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ใน ประเทศญี่ปุ่น พบว่าความสามารถในการคำนวณ
ความสามารถในการตัดสินใจ ดีขึ้น โดยกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ DHA เป็นเวลา 6
เดือนจะมีอาการที่ดีขึ้น มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับ DHA อย่างชัดเจน

ฉะนั้น น้ำมันปลาจึงเป็นอาหารเสริม ที่ควรค่าแก่การกิน เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามี
Omega 3 และ Omega 6 ที่ช่วยป้องกัน ในเรื่องโรคเสื่อมต่างๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือด
เช่นหลอดเลือดอุดตัน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจ เป็นต้น และมี DHA
ที่ช่วยบำรุงสมอง และเส้นประสาท ลดความเครียด และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ได้อีกด้วย

>>> สนใจอาหารเสริม ดูแลสุขภาพของ Deeyium.com คลิ๊กที่นี่ <<<

ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน น้ำมันปลา ( Fish Oil )



มีความเชื่อหลายความเชื่อ ที่คนทั่วไปคิด และมองว่า
น้ำมันปลาไม่น่าจะเป็นอาหารเสริมที่ดี และจำเป็น รวมไปถึงบางคนมองว่า
มันไม่น่ากินด้วย เพราะว่าบางคนคิดว่าน้ำมันปลา มันล้างหลอดเลือดมากจนเกินไป
จนหลอดเลือดบาง

หรือด้วยความที่มันมาจากปลาทะเลน้ำลึก ที่มีขนาดใหญ่
เลยคิดว่ามันจะต้องมีสารตกค้างมาก เพราะอยู่บนสุด ของห่วงโซ่อาหาร และบางคนก็มองว่า
เค้าแพ้อาหารทะเล น่าจะกินน้ำมันปลาไม่ได้ อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
เราจะมาตีแผ่ความเชื่อเหล่านี้กัน
  ความเชื่อที่ 1 น้ำมันปลาล้างหลอดเลือด มากจนเกินไป จนหลอดเลือดบาง
  ความเชื่อนี้ ดูจะสมเหตุสมผล เพราะการล้างหลอดเลือด ก็อาจจะทำให้หลอดเลือดของเรา
  บางลงได้ แต่ถ้าเรามองอีกด้านนึง หากหลอดเลือดของเรา ไม่ได้รับการล้างเลย
  แม้แต่น้อย มันก็แน่นอนว่า หลอดเลือดของเราจะอุดตัน อย่างแน่นอน แล้วก็จะนำมาซึ่ง
  โรคชุดที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง
  ซึ่งก็ชัดเจนในตัว กินน้ำมันปลา ก็ดีกว่าไม่กิน

มีคำแนะนำจากแพทย์ ในเรื่องของ วิธีการกินน้ำมันปลา เช่น ให้กินเดือน เว้นเดือน
เพื่อให้หลอดเลือดได้รับการล้าง และหลอดเลือดเรา จะได้ไม่บางจนเกินไป เพราะของดีๆ
อย่างน้ำมันปลา ถ้าจะไม่กินเลย ก็ดูจะเสียของ
  ความเชื่อที่ 2 น้ำมันปลามาจาก ปลาทะเลน้ำลึก อาจมีสารตกค้างมาก
   ความเชื่อนี้ ก็ดูจะฟังขึ้น เพราะว่าปลาทะเลน้ำลึกขนาดใหญ่ เช่น ปลาแซลมอน
  มักจะเป็นสัตว์ ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งก็จะกินปลาเล็ก ปลาน้อย
  ที่อยู่ในทะเล ทำให้อาจจะได้รับสารพิษ จากปลาเล็ก ปลาน้อย การนำน้ำมันปลา มากิน
  เลยอาจจะได้รับสารพิษ ที่มีอยู่ทั้งทะเลเลยก็ได้ และด้วยความที่
  น้ำมันปลาได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ปลาที่นำมาสกัด ในตอนหลังนี้
  ส่วนใหญ่ก็เป็นปลาเลี้ยง ซึ่งอาจจะไม่ดี เท่ากับที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

จริงๆ แล้ววิธีแก้ ค่อนข้างจะง่ายมาก ก็เปลี่ยนไปกิน น้ำมันปลาที่ทำมาจาก
ปลาทะเลน้ำลึกที่มีขนาดเล็กแทน เช่น ปลาคอด และปลาแอนโชวี่ ก็จะทำให้เราแก้ปัญหา
ในเรื่องของสารพิษ ที่อาจจะได้รับจากน้ำมันปลาได้ และปลาเหล่านี้
ยังคงมีอยู่มากในธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเพื่อการค้า เพราะส่วนมากแล้ว
เอาไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นไม่ได้ จึงมีอยู่เหลือเฟือในธรรมชาติ
และอุดมไปด้วยสารอาหาร
  ความเชื่อที่ 3 แพ้อาหารทะเล เลยไม่กินน้ำมันปลา
   บางคนบอกว่า ตัวเองแพ้อาหารทะเลย ก็เลยตัดสินใจ ไม่กินน้ำมันปลา เพราะกลัวว่า
  จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ที่จริงแล้ว คนที่แพ้อาหารทะเลนั้น เกิดจาก โปรตีน
  ที่อยู่ในอาหารทะเล ไม่ใช่ไขมันจากอาหารทะเล ฉะนั้นน้ำมันปลา ที่มีความบริสุทธิ์
  ไม่มีโปรตีน จากปลาเจือปน จึงไม่ทำให้แพ้อย่างแน่นอน สามารถมั่นใจได้

ฉะนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่แพ้อาหารทะเล ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่า
จะกินน้ำมันปลาไม่ได้ เพราะว่ากินได้แน่นอน โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้

วิธีการเลือกซื้อ น้ำมันปลา ( Fish Oil ) เบื้องต้น

หลังจากที่เราได้รู้แล้วว่า น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างไร และทำไมต้องกินน้ำมันปลา
ก็จะมาถึงหัวข้อ ในเรื่องของวิธีการเลือกซื้อ Fish Oilอย่างถูกวิธี ดังนี้

1. เลือกน้ำมันปลา ที่สกัดจากปลาทะเลขนาดเล็ก



เพราะปลาขนาดเล็กนั้น เป็นฐานของห่วงโซ่อาหาร และกินแพลงตอนเป็นหลัก
ทำให้มีความสะอาด และบริสุทธิ์สูง ไม่ค่อยจะได้รับสารพิษ
รวมไปถึงไม่จำเป็นต้องเลี้ยง เพราะอุดมสมบูรณ์ ในธรรมชาติ เช่น ปลาคอด
และปลาแอนโชวี่ แต่ปลาทะเลขนาดใหญ่ เช่น ปลาแซลมอน มีไม่พอในธรรมชาติ
จึงต้องใช้ปลาเลี้ยง มาสกัด และปลาแซลมอนยังเป็น ปลาทะเลขนาดใหญ่
จึงเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษ จากการอยู่บนสุด ของห่วงโซ่อาหารด้วย

2. อัตราส่วน EPA ต่อ DHA อยู่ที่ 1.5 :1 เท่า



น้ำมันปลาที่คุณภาพดีที่สุด และเหมาะสมต่อร่างกายมากที่สุด ควรจะมีสาร EPA 1.5 ส่วน
ต่อสาร DHA 1 ส่วน เพราะจะช่วยให้ ร่างกายดูดซึมได้อย่างเต็มที่
และเกิดประโยชน์กับร่างกายสูงสุด


    อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว





ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว



พบกับเหตุผลที่ว่า ทำไมคุณจำเป็นต้องกิน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ประเภทโปรตีน
วิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมโปรตีนอย่างถูกวิธี และโปรตีนตัวไหนที่กินแล้ว
ไม่กลัวมะเร็ง

ทำไมต้องกินผลิตภัณฑ์อาหารเสริม



เลือด เนื้อ และกระดูก ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ประกอบกันเป็นร่างกายของเรา
เกิดมาจากหน่วยที่เล็กที่สุด ในร่างกายของเรา นั่นคือเซลล์
แล้วเซลล์มันมีอะไรเป็นส่วนประกอบล่ะ ถ้าหากเรารู้ว่าเซลล์ทุกเซลล์ ในร่างกายของเรา
มันมีส่วนประกอบ คือ อะไร เราก็คงจะสามารถเลือกกิน สิ่งที่มีประโยชน์กับเซลล์

เพื่อเพิ่มพลัง ให้มันมีกำลังวังชา แล้วปฏิบัติหน้าที่ อย่างเป็นปกติ
และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเรา ซึ่งวันนี้ เรารู้แล้วว่าเซลล์ทุกเซลล์
ในร่างกายของเรา มีอะไรเป็นส่วนประกอบ ส่วนประกอบที่สำคัญ
ที่สุดในร่างกายของเรานั้น คือ โปรตีน มีแค่โปรตีนเท่านั้น
ที่ทำให้เซลล์เป็นรูปเป็นร่าง

เพียงแค่โปรตีนเท่านั้น ที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้
ไม่ใช่ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต เพราะไขมัน และคาร์โบไฮเดรต
ให้เพียงแค่พลังงานเท่านั้น แต่ไม่สามารถเสริมสร้าง หรือซ่อมแซมร่างกายได้เลย



แล้วเราก็เรียนกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ว่าถ้าจะกินอาหารที่มีโปรตีน ก็ต้องกินอาหาร
ในกลุ่มของ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเมล็ดต่างๆ แล้วเราก็จะมีได้รับโปรตีน
ที่ทำให้เด็กเจริญเติบโต และผู้ใหญ่ได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ชะลอความชราภาพ
และความเสื่อมของร่างกายได้

ในเมื่อโปรตีน เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ และเนื้อสัตว์ก็สามารถที่จะให้โปรตีนได้
ทำไมถึงมีผลงานวิจัยทางการแพทย์บอกมาว่า กินเนื้อสัตว์มากไม่ดี
กินผลิตภัณฑ์จากนมเยอะ ก็ไมได้ แล้วจะให้กินแต่ พืชพรรณธรรมชาติ อย่างเดียวเลยหรอ

ผลงานวิจัย ก็บ่งชี้ว่า เนื้อสัตว์มีฤทธิ์ เป็นกรด และกินเยอะก็มีผลร้ายต่อ
กระเพราะของเรา มันย่อยยาก และไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ทั้งๆ ที่
ผู้สูงอายุอาจจะต้องการโปรตีน ที่มากกว่าวัยผู้ใหญ่ก็ได้
เพราะร่างกายมีความทรุดโทรมมากกว่า จึงต้องการโปรตีน ไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอมากกว่า



ส่วนนมนั้น ก็มีฤทธิ์เป็นกรดเช่นกัน แล้วก็มักจะมีปัญหาในเรื่องการย่อย
และหากย่อยไม่หมด ก็จะมีการหมักหมม สะสมอยู่ในกระเพราะ
ก่อให้เกิดมะเร็งในระยะยาวได้ คนส่วนใหญ่เลย หันไปดื่มนมถั่วเหลืองแทน
เพราะว่าปลอดภัย และดีต่อร่างกายมากกว่า

แล้วจะทำอย่างไรดี เพื่อให้ร่างกายของเรา ได้รับโปรตีนเท่ากับที่ แพทย์แนะนำ
นั่นคือ ใน 1 วันนั้น ร่างกายมนุษย์ควรจะได้รับ โปรตีน 1 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1
กิโลกรัม และสำหรับสตรีมีครรภ์จะอยู่ที่ โปรตีน 1.5 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เพื่อให้ลูกในท้อง มีการเจริญเติบโต ที่สมบูรณ์แข็งแรง

ถ้ามองกันจริงๆ โดยไม่หลอกกัน มันยากมากที่ เราจะได้รับโปรตีนเพียงพอ
เพราะส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเน้นไปที่ การกินข้าว กับของทอด ซะมากกว่า
จะกินอาหารที่มีโปรตีน อย่างกับข้าว ที่เป็นพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ แล้วต่อให้
กินเนื้อสัตว์ได้ 1 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมแล้ว



เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ร่างกายเราดูดซึมได้มากน้อยแค่ไหน ที่สุดแล้ว
ร่างกายของเรา อาจจะดูดซึมได้เพียง 70-80% ของที่กินเข้าไป นั่นคือ สุดท้ายแล้ว
เราก็ได้รับโปรตีนแค่ 0.7-0.8 กรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมอยู่ดี
แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ ถึงจะมั่นใจได้ว่าเราจะได้รับ โปรตีนอย่างเพียงพอ

คำตอบที่ดีที่สุด สำหรับโจทย์ข้อนี้ คือ การกินผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ประเภทโปรตีน
เพื่อให้เรา ได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอ ตามที่ร่างกายต้องการ
เพื่อให้ร่างกายนำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และชะลอความแก่ ได้อย่างชะงัด

นอกจากนี้ การกินอาหารเสริม จำพวกโปรตีน ยังมีคุณประโยชน์ เพิ่มเติมดังนี้
  โปรตีนทำให้ระบบการทำงานในร่างกาย เป็นปกติ เพราะช่วยเสริมสร้างสมดุล
  ในการสร้างฮอร์โมนได้
  โปรตีนลดอัตราการเสื่อมของกระดูกให้น้อยลง ลดอาการไขข้ออักเสบได้
  โปรตีนที่สกัดจากปลา หรือฟิชไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Fish Hydrolyzed Collagen)
  ช่วยเสริมสร้าง คอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณดี
  โปรตีนจากถั่วเหลือง ช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลลงได้ ช่วยลดความเสี่ยง
  ของการเป็นโรคหัวใจ
  โปรตีนช่วยให้ระบบประสาท ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความจำดีขึ้น
  และเพิ่มพลังสมอง

ทำไมคนทั่วไปถึงไม่กิน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ประเภทโปรตีน



คนทั่วไป มักจะมองว่า เค้าไม่มีความจำเป็นต้องกินโปรตีนเลย แม้แต่น้อย เพราะว่า
เค้าได้กินอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ถั่ว และผลิตภัณฑ์จากนม อย่างเต็มที่แล้ว
และบางคน ก็อาจจะคิดว่า กินอาหารเสริมจำพวกโปรตีนแล้ว
จะทำให้กลายเป็นนักกล้ามหรือเปล่า เพราะมักจะเห็นนักกล้ามกินกัน เราจะมาตีแผ่
ความเชื่อเหล่านี้กัน
  ความเชื่อที่ 1 กินเนื้อสัตว์จัดเต็ม แล้วจะกินโปรตีนทำไม
   ง่ายมากสำหรับความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อที่ผิดแบบเต็มๆ เพราะโปรตันนั้น
  ก็มีหลายชนิด เราอาจจะได้รับโปรตีนที่ ร่างกายก็ผลิตได้ และไม่มีความจำเป็น
  ในจำนวนมาก แต่กลับได้รับโปรตีน ชนิดที่ร่างกายของเรา ผลิตไมได้
  ซึ่งมีความจำเป็นมาก ทำให้เราขาดสารอาหารอยู่ดี

ฉะนั้น การกินอาหารเสริม ประเภทโปรตีน จึงช่วยเติมเต็ม ในส่วนที่ขาด
ทำให้ร่างกายของเรา ได้รับโปรตีนที่จำเป็นต้องร่างกาย อย่างเต็มที่ ไม่ขาดสารอาหาร
ที่เราจะเอาไว้ซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอได้  และร่างกายไม่พบกับความผิดปกติ
  ความเชื่อที่ 2 กินโปรตีนมาก จะกลายเป็นนักกล้ามหรือเปล่า
   ความเชื้อนี้ ก็เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการกินโปรตีนมากๆ ไม่ได้ทำให้เรา
  กลายเป็นนักกล้าม แต่อย่างใด เพราะการที่เรา จะสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้นั้น
  จะต้องมีการออกกำลังกาย ควบคู่ไปด้วยกัน ที่นักกล้าม เลือกที่จะกินโปรตีน
  เพราะว่าจะได้สร้างเสริมกล้ามเนื้อ ให้มันขึ้นได้เร็วขึ้นเท่านั้น
  ไม่ได้มีผลให้คนทั่วไป สร้างกล้ามเนื้อได้ในแบบเดียวกัน

ฉะนั้น ก็ปลอดภัยหายห่วง โดยเฉพาะคุณผู้หญิงสวยๆ ที่เกรงว่า กินโปรตีนแล้วจะทำให้
กล้ามขึ้น กล้ามโต กลายเป็นนักกล้าม สามารถกินโปรตีนได้เลย ไม่มีอาการอย่างที่ว่า
เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน

วิธีการเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ประเภทโปรตีน

อาหารเสริม ประเภทโปรตีน มีอยู่มากมายในตลาด แล้วเราจะเลือกซื้ออันไหนดีล่ะ
เราจะมาตอบคำถามนี้กัน

1. ไม่ได้ใส่แค่ เวย์โปรตีน เพียงอย่างเดียว



เวย์ โปรตีน (Whey Protein) หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าหางนม แม้จะเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง
และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากพอสมควร แต่หากโปรตีนที่คุณเลือกซื้อ
ใส่แค่เวย์อย่างเดียว มันจะคล้ายกับ โปรตีนของนักกล้าม มากเกินไปหรือเปล่า
หากใส่โปรตีนชนิดอื่นด้วย ที่ช่วยเสริมสร้างอย่างอื่น นอกจากการซ่อมแซม
ส่วนที่สึกหรออย่างเดียว ก็คงจะดี

2. มีส่วนผสมของ ฟิชไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (Fish Hydrolyzed Collagen)



ไหนๆ ถ้าเราจะกินโปรตีนแล้ว ก็น่าจะกินโปรตีนที่ช่วย เสริมสร้างสุขภาพผิว
และเส้นผมที่ดีด้วย ก็คงจะดี จะได้ดูดีจากทั้งภายนอก และภายใน ภายนอกก็ดูผ่องใส
ภายในก็แข็งแรง ไม่มีโรคภัยกล้ำกลาย

3. มี Beta-Glucan เป็นส่วนผสม



เบต้ากลูแคน คือ
สารอาหารที่มีคุณสมบัติมหัสจรรย์ที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
และป้องกันโรคติดเชื้อจากจุลชีพต่าง เบต้ากลูแคนสามารถพบได้ใน เห็ดหลินจือ ข้าวโอ้ต
ข้าวบาร์เลย์ และยีสต์
นิยมใช้ในการบำบัดรักษาโรคมะเร็งเป็นการรักษาทางเลือกในต่างประเทศ

ฉะนั้นหากโปรตีนที่เราเลือกซื้อ สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ไปพร้อมกับเพิ่มภูมิคุ้มกัน และป้องกันความเสื่อมของร่างกายได้
ก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

>>> สนใจอาหารเสริม ดูแลสุขภาพของ Deeyium.com คลิ๊กที่นี่ <<<

เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น 50 เท่า ใน 3 เดือน ด้วยโปรตีน





หากคุณเป็นคนหนึ่ง มีปัญหาเรื่องสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คนที่มีอาการของโรคมะเร็งการจัดเต็มโปรตีน ที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้
จะช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้นสามารถอยู่สู้กับโรคมะเร็งต่อไปได้

จากในรูปน้องคนนี้อายุ 5 ขวบ เป็นมะเร็งต่อมหมวกไต และต้องให้คีโม
ทำให้ภูมิต้านทานลดลงอย่างรวดเร็ว จนเม็ดเลือดขาวเหลือ 0.20
ซึ่งคนปกติทั่วไปต้องอยู่ที่ 4-10 แต่หลังจากกินโปรตีนของเราแล้ว 3 เดือน
เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นจาก 0.20 เป็น 11.20 หรือ 50 เท่า พ่อแม่น้องก็ดีใจ
และมีกำลังใจที่จะให้น้องสู้กับมะเร็งต่อไปได้


    อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว



ทำไมจึงต้องทานสารอาหารเสริม

     การวิจัยทางการแพทย์ ได้แสดงถึงความสัมพันธ์ ซึ่งไม่อาจโต้แย้งได้ ระหว่างโภชนากรที่ดี กับสุขภาพที่แข็งแรงถาวร โภชนาการที่ดีที่สุดประกอบไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ อนุมูลอิสระ และสารอื่นๆ ที่เราบริโภคเข้าไป ในปริมาณน้อย (โภชนาหารที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องการเพียงเล็กน้อย) รวมถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันที่เป็นสารประกอบ ส่วนใหญ่ของอาหาร ที่เราบริโภค (โภชนาหารจำเป็นที่ต้องการในปริมาณมาก) ในทุกๆ ช่วงของชีวิตโภชนาหารทั้ง 2 ประเภทนั้นจำเป็นต่อสุขภาพที่แข็งแรงถาวร 
 
   เราทุก คนรู้ว่าอาหารที่สมบูรณ์และสมดุลไปด้วย ผัก ผลไม้ คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ นั้นเป็นพื้นฐานที่สำคัญของโภชนาการที่ดีและสุขภาพที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามมีเพียงคนส่วนน้อยที่เลือกบริโภคอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการขาดแคลนหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นอย่าง วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระแบบเรื้อรัง และอาจจะทำให้เป็นภัยต่อสุขภาพได้
บริโภคอาหารที่มี สารอาหารพอเพียง 
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1941 รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาได้กำหนดค่าชี้นำระดับโภชนาการที่ควรบริโภค (Recommended Dietary Allowance หรือ RDA) สำหรับวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารอื่นๆ ในตอนต้น ค่า RDA มีจุดประสงค์เพื่อลดปัญหาโรคขาดสารอาหารร้ายแรง มิได้มีจุดประสงค์ที่จะเป็นตัวชี้นำของโภชนาการที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพที่ แข็งแรงในระยะยาว
มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า การบริโภคอาหารที่มีสารอาหารตามค่า RDA สามารถป้องกันโรคขาดสารอาหารต่างๆ เช่น โรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคกระดูกอ่อนได้ แต่ค่าชี้นำ RDA มิได้คำนึงถึงภาวะขาดแคลนอาหารเรื้อรังซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพในระยะยาว หรือการที่ร่างกายอาจได้รับประโยชน์อื่นๆจากสารอาหารที่เพิ่มขึ้น การบริโภคอาหารทั่วไปอาจไม่สามารถให้สารอาหารบางชนิดที่จำเป็นได้ ปัจจัยตัวอื่นอาทิเช่น วิถีการดำเนินชีวิต สภาพแวดล้อมในการทำงานและการเป็นอยู่ สามารถเปลี่ยนความต้องการทางโภชนาการของเรา และมีส่วนสำคัญ ในการกำหนดสารอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา ซึ่งอยู่เหนือปริมาณที่แนะนำ โดยค่าชี้นำ RDA อย่างมาก

การบริโภคอาหารมากเกิน ไป และการขาดสารอาหาร  เนื่องจากนิสัยการกินที่ไม่ดี ประชากรชาวสหรัฐอเมริกา เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่ได้รับสารอาหารสำคัญตามค่าชี้นำ RDA อีกทั้งการบริโภคอาหารนอกบ้านที่เพิ่มมากขึ้น
 
และอาหารส่วนใหญ่ที่มาจากร้านอาหารฟาสท์ฟู้ด ทำให้คนอเมริกันโดยเฉลี่ย มีการบริโภคอาหารที่มีแคลลอรี่สูง แต่สารอาหารต่ำ การสำรวจการโภชนาการทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าการบริโภคเกลือแร่ที่สำคัญ รวมไปถึง แคลเซียม แม็กนีเซียม สังกะสี และทองแดง โดยเฉลี่ยจะต่ำกว่าระดับที่แนะนำ ในทุกๆกลุ่มอายุและเชื้อชาติ เราบริโภคอาหารมากเกินไปและขาดสารอาหาร ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจน จากการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคอ้วน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
 
การปกป้องร่าง กายจากอนุมูลอิสระ 
     อนุมูลอิสระ คือโมเลกุลที่ไม่มั่นคง ที่สามารถทำลายเนื้อเยื่อของร่างกายมนุษย์ ถึงแม้ว่ามัน จะเป็นผลผลิต ตามธรรมชาติจากการเผาผลาญอาหารของเซลล์ อนุมูลอิสระ สามารถได้มาจากธาตุต่างๆ ตามสภาพแวดล้อม อาทิเช่น มลภาวะที่เป็นพิษ ควัน และแสงแดดที่แรงเกินไป หรือจากการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูดดมสารเคมีทั่วไป และบริโภคอาหารทอดที่ทีไขมันสูง
  ในภาวะที่สมบูรณ์ สารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายผลิต และได้รับมาจากอาหารที่บริโภคจะ “ทำความสะอาด” อนุมูลอิสระที่มีอยู่ และทำลายมันในช่วงที่มันถูกผลิตขึ้นมา แต่เนื่องจากร่างกายของเราถูกโจมตีตลอดเวลา ผลกระทบจากการสะสม ของอนุมูลอิสระสามารถทำลายความสมดุล และส่งผลเสียต่อร่างกายได้ วิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และอาหารเสริมที่มีเกลือแร่ คือทางหนึ่งที่เราสามารถป้องกันผลกระทบทางลบจากอนุมูลอิสระ
 
โภชนาการ ที่ดีที่สุด 
เราไม่สามารถมองข้าม ความสำคัญของการได้รับปริมาณที่พอดี ของเกลือแร่ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงปริมาณและชนิดที่เหมาะสมของไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีนไปได้อาหารเสริมที่มีคุณภาพ สามารถช่วยให้คุณ ได้รับสารอาหารที่สำคัญ ที่ขาดจากการบริโภคอาหาร ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยูซาน่า ออกแบบมาเพื่อการให้สารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในสูตรที่สมดุล เพื่อชดใช้การบริโภคอาหารที่ไม่ดี และต่อสู้กับภาวะที่ร่างกาย มีอนุมูลอิสระมากเกินไป อาหารเสริมเหล่านี้ออกแบบมา เพื่อส่งเสริมการดำเนินชีวิต เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และจัดหาสารอาหารที่หายากในอาหารทั่วไป เพื่อรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง



















อาหารเสริมลดน้ำหนัก เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
    อาหารเสริมบำรุงผิว สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย
    อาหารเสริมผิวขาว เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี
    กาแฟลดน้ำหนัก เพราะการดื่มกาแฟไม่ได้แปลว่าต้องอ้วน
    น้ำมันรำข้าว มีดีกว่าแค่ล้างหลอดเลือด
    อาหารเสริม สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ดูแลสุขภาพ
    วิตามินบำรุงผิว เพราะผิวเราขาดการบำรุงไม่ได้
    น้ำมันปลา ( Fish Oil ) มีดีกว่าแค่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โปรตีนดีไม่ขาด มะเร็งก็ไม่กลัว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น